นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.72/74 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 29.77/79 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค และ Flow ตลาดหุ้น ระหว่างวันเงินบาท Low สุดอยู่ที่ 29.71 บาท/ดอลลาร์ High สุดอยู่ที่ 29.79 บาท/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 29.70-29.80 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรณีที่ตลาดต่างประเทศมองว่าเงินบาทมีโอกาสจะแข็งค่าไปถึง 29.50 บาท/ดอลลาร์ นั้นเป็นผลมาจากเงินทุนไหลเข้า (Flow) มาในตลาดหุ้นเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีผลตอบแทนสูงกว่าประเทศอื่นๆ รวมถึงสูงกว่าภูมิภาคและสูงกว่าฝั่งยุโรป
*ปัจจัยสำคัญ
- ช่วงปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.11/14 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 96.10/14 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3004/3007 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2997/2930 ดอลลาร์/ยูโร
- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจทานความชัดเจนและจัดลำดับความสำคัญของแต่ละโครงการใน ร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านลบ. โดยคาดว่าจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ในสัปดาห์หน้า(19 มี.ค.) เพื่อให้ทันเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรภายในเดือนมี.ค.นี้
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากที่ผลการเลือกตั้งของอิตาลีในเดือนที่แล้วยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ประกอบกับมาตรการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังไม่มีความคืบหน้า ได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจที่แท้จริงของอิตาลี
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้นขึ้น 18 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 14,688 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,588.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.33 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้
- ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ประกาศว่า 17 ใน 18 ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) รอบล่าสุด ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐส่วนใหญ่มีเงินทุนกันชน (capital buffer) เพียงพอที่จะผ่านพ้นภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างรุนแรงไปได้
- ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์ป (CICC) ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจของจีน ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในปี 2556 เป็น 2.9% จากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 2.7% โดยระบุว่า ดัชนี CPI เดือนก.พ.ขยายตัวสูงเกินคาด
- นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวในวันนี้ว่า การที่บีโอเจจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้นั้น จะต้องใช้นโยบายการเงิน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าผ่อนคลายการเงินอย่างจริงจัง หากเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการบีโอเจ
- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่ไหลเข้าฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 9.8% เทียบรายปี แตะ 2.03 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555