รายงานระบุว่ามาตรวัดประชากรที่ประสบกับความยากลำบากอย่างหนักได้พุ่งขึ้นแตะ 11.1% ในปี 2554 จาก 6.9% ในปี 2553 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีชาวอิตาเลียนเผชิญกับสภาพที่ทุกข์ยากอย่างหนักเพิ่มขึ้น 2.5 ล้านคน
นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่าอำนาจการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนลดลง 5% ในช่วงปี 2550-2554 จากผลกระทบของวิกฤตที่มีต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
เกือบ 1 ใน 4 ของประชากรวัยหนุ่มสาวที่อายุระหว่าง 15-29 ปี ไม่ได้เข้ารับการฝึกงานหรือไม่มีงานทำในปี 2554 ขณะที่อัตราจ้างงานในกลุ่มประชากรวัย 20-64 ปี ลดลงจาก 63% ในปี 2551 สู่ระดับ 61.2% ในปี 2554
ทั้งนี้ วิกฤตที่ทวีความรุนแรงได้ส่งผลให้อิตาลีเข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งฟิทช์ เรทติ้งส์พิจารณาว่ามีความรุนแรงแรงที่สุดในยุโรป โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงจาก A- สู่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มอยู่ในเชิงลบ อันเนื่องมาจากผลการเลือกตั้งในเดือนที่แล้วที่ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน
นอกจากนี้ ยังไม่มีแนวโน้มว่าอิตาลีจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้ เนื่องจากพรรคการเมืองฝ่ายกลาง-ซ้ายไม่มีคะแนนเสียงมากเพียงพอที่จะครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา แม้ว่าจะได้รับชัยชนะเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน