ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.28 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 95.81 เยน แต่อ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9513 ฟรังค์ จากระดับ 1.0264 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3003 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์ร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.4931 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.4934 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0271 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0237 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน จากการคาดการณ์ที่ว่าบีโอเจจะใช้มาตาการผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม หากนายคุโรดะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจ
นายคุโรดะกล่าวต่อวุฒิสภาญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ว่า การที่บีโอเจจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้นั้น จะต้องใช้นโยบายการเงิน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะเดินหน้าผ่อนคลายการเงินอย่างจริงจัง หากเขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการบีโอเจ
นอกจากนี้ นายคูโรดะกล่าวว่า การใช้จ่ายทางการคลังอย่างยืดหยุ่นของรัฐบาล ประกอบกับการใช้กลยุทธ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะกลางถึงระยะยาวนั้น จะช่วยให้บีโอเจบรรลุเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพด้านราคาด้วยเช่นกัน
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ในขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 7.7% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สิ้นปี 2551 บ่งชี้ถึงการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน
ส่วนสกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แม้ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากที่ผลการเลือกตั้งของอิตาลีในเดือนที่แล้วยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน