ทั้งนี้ บริษัทมีแผนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ที่ทดแทนโรงไฟฟ้าขนอม ขนาด 920 เมกะวัตต์ เงินลงทุน 7.5 พันล้านบาท คาดว่าในไตรมาส 2/56 จะรู้ผลการเสนอราคาไฟฟ้า(PPA) และคาดว่าจะจ่ายไฟ (COD) ได้ในเดือน มิ.ย.59 โดยระหว่างนี้กำลังคัดเลือกผู้รับเหมาอยู่
เงินลงทุนอีกจำนวน 4.7 พันล้านบาท ใช้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์โก(Solarco) ซึ่ง EGGO ถือหุ้น 51% ร่วมกับยันฮี โซลาร์ เพาเวอร์ ถือ 49% โดยมีโรงไฟฟ้า 6 แห่งๆละ 9.5 เมกะวัตต์ รวม 57 เมกะวัตต์ โดยเฟส 1 ตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี และเฟส 2-6 ตั้งอยู่ จ.นครปฐม คาดจ่ายไฟเข้าสู่ระบบได้ในปลายปี 56
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดเล็กมาก"เทพนา"(ถือหุ้น 90%)ขนาด 6.9 เมกะวัตต์ อยู่จ.ชัยภูมิ คาดจ่ายไฟได้ในเดือน ส.ค.56 จำนวนเงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาท และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะชุมชนหาดใหญ่ จ.สงขลา ขนาด 6.5 เมกะวัตต์ ซึ่ง EGGO ถือหุ้น 50% คาดจ่ายไฟในเดือน ส.ค.56 รวมทั้งการร่วมทุนในโครงการไซยะบุรีอีก 1 พันกว่าล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินเพิ่มทุนตามที่ EGGO ถือหุ้นในสัดส่วน 12%
นายสหัส ยังกล่าวว่า บริษัทมีโอกาสที่จะเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศที่ดำเนินกิจการอยู่แล้วขนาด 1 พันเมกะวัตต์ขึ้นไปที่มาเก๊า และฮ่องกง คาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2/56 หรือไตรมาส 3/56 โดยมูลค่าดีลละประมาณ 5-6 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้ร่วมกับบริษัทจากฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และบริษัทท้องถิ่นในอินโดนีเซีย ในการยื่นประมูลโรงไฟฟ้า ขนาด 1.8 พันเมกะวัตต์ โดย EGGO ร่วมทุน 23-24% คาดว่าจะรู้ผลประมูลในไตรมาส 4/56
รวมทั้งบริษัทเตรียมดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 170 เมกะวัตต์ ที่จ.ชัยภูมิ โดยจะดูโครงการเทพนาเป็นต้นแบบการลงทุน อยู่ระหว่างรอผลการซื้อไฟ(PPA)คาดรู้ผลในไตรมาส 2/56 และปลายไตรมาส 3/56 จะรู้ผลการเจรจาข้อตกลงในการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเควซอนส่วนขยายในฟิลิปปินส์ กำลังผลิต 500 เมกะวัตต์
ส่วนการลงทุนโรงไฟฟ้าในพม่า นายสหัส กล่าวว่า บริษัทจะเข้าไปร่วมทุนในโครงการนิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือน้ำลึกทวายในพม่า ตามคำชวนของบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเม้นท์(ITD)ที่มีโครงการตั้งโรงไฟฟ้าช่วงแรก ขนาด 280 เมกะวัตต์ เพื่อป้อนนิคมอุตสาหกรรมทวาย และมีแนวโน้มผลิตไฟฟ้าบางส่วนส่งกลับเข้ามาขายให้กับไทยด้วย ซึ่งส่วนนี้ต้องรอแผนจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แต่บริษัทจะไม่เข้าลงทุนเอง เพราะเท่าที่ได้ไปสำรวจการเข้าลงทุนในพม่ายาก เพราะกฎหมายไม่เอื้อ
นายสหัส กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินทุน 1.5 หมื่นล้านบาทจะมาจากเงินกู้ทั้งหมด ในส่วนนี้ยังไม่นับรวมการเข้าซื้อกิจการใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งหากสรุปก็จะใช้เงินกู้ในการลงทุนเช่นกัน โดยปัจจุบันบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 0.6 เท่า หลังการกู้เงิน 1.5 หมื่นล้านบาท D/E จะเพิ่มเป็น 0.7-0.8 เท่า ถือว่ายังต่ำอยู่ โดยกระแสเงินสดปัจจุบันลดลงเหลือ 1 พันล้านบาท หลังจากนำเงินใช้ลงทุนมากในปีที่แล้ว 2.2 หมื่นล้านบาท
*คาดกำไร H1/56 ดีกว่า H1/55
นายสหัส คาดว่า ในไตรมาส 1/56 จะมีกำไรสูงกว่าในไตรมาส 1/55 ที่มีกำไรสุทธิ 1.22 พันล้านบาท เพราะไตรมาสนี้ บริษัทรับรู้กำไรจากโรงไฟฟ้าเควซอนเต็มปีหลังจากที่ถือหุ้นเพิ่มเป็น 98% จาก 45.875% โดยคาดว่าในช่วงครึ่งแรกปีนี้ กำไรจะดีกว่าครึ่งแรกปีก่อน แต่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้กำไรจะทรงๆกับครึ่งปีหลังของปีก่อน แต่จะดีขึ้นหากได้ซื้อกิจการเข้ามาเพิ่มเติมและรับรู้รายได้ทันที
ทั้งนี้ ในปีนี้ ค่าความพร้อมจ่ายไฟปีนี้ลดลงตามโรงไฟฟ้าระยอง และโรงไฟฟ้าขนอม ขณะที่จะมีโรงไฟฟ้าเควซอนรับรู้กำไรเต็มปี และจากโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) 3 โครงการ รวมกำลังผลิต 375