ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งรับยอดค้าปลีกสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ Thursday March 14, 2013 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธะรกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น และหลังจากที่ยูโรสแตทเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

ค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3026 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4926 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4910 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.0306 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0318 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.03 เยน จากระดับ 95.91 เยน และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9526 ฟรังค์ จากระดับ 0.9472 ฟรังค์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 1.1% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง และทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่สถานีบริการน้ำมันซึ่งเพิ่มขึ้น 5.0%

นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1% แตะที่ 1.642 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่าภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำยอดขายได้สูงขึ้นในอนาคต โดยสต็อกของกลุ่มผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 0.5% สต็อกของกลุ่มค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.2% และสต็อกของกลุ่มค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.5%

ส่วนค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังร่วงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 17 ประเทศในเดือนม.ค. ปรับตัวลดลง 0.4% จากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% และหากเทียบรายปี ผลผลิตอุตสาหกรรมยูโรโซนลดลง 1.3% ในเดือนม.ค.

ผลผลิตอุตสาหกรรมที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดบ่งชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของภูมิภาคยังคงดำเนินต่อเนื่องเข้าสู่ช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงไม่สามารถหลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ หลังจากที่หดตัวลงติดต่อกันถึง 5 ไตรมาส ท่ามกลางอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงถึง 11.9%

ยูโรสแตทรายงานเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซนในไตรมาส 4/2555 หดตัวรุนแรงขึ้นในอัตรา 0.6% จากไตรมาส 3 ที่หดตัว 0.1%

ด้านธนาคารกลางยุโรปคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.5% ในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ