ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลงราว 0.1% ปิดที่ 295.32 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 7,970.91 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด, +0.06% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 3,836.04 จุด ลดลง 3.93 จุด, -0.10% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,481.50 จุด ลดลง 29.12 จุด, -0.45%
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 9 วันทำการและเป็นสถิติที่ปิดบวกยาวนานที่สุดในรอบ 16 ปี เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธะรกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้น 5.22 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 14, 455.28 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.04 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 1,554.52 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.80 จุด หรือ 0.09% ปิดที่ 3,245.12 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการน้ำมันดิบของสหรัฐซบเซาลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ขยับลง 2 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 92.52 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.18% ปิดที่ 108.36 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เนื่องจากความแข็งแกร่งของยอดค้าปลีกสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 1,588.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 28.958 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 21.3 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.95 เซนต์ ปิดที่ 3.525 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดที่ 1,593.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 1.90 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 771.25 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 4.25 ดอลลาร์
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกและสต็อกสินค้าคงคลังภาคธะรกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลอิตาลีปรับตัวสูงขึ้น และหลังจากที่ยูโรสแตทเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3026 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.4926 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4910 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.0306 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0318 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.03 เยน จากระดับ 95.91 เยน และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9526 ฟรังค์ จากระดับ 0.9472 ฟรังค์
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 มี.ค.) หลังจากยูโรสแตทเปิดเผยว่าผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนหดตัวลงในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลง 29.12 จุด หรือ 0.45% ปิดที่ 6,481.50 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,437.61-6,510.62 จุด