นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานลงนามสัญญาจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วง บางซื่อ-รังสิต ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา MAA Consortium ประกอบด้วยบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท เซ้าท์อิ๊สเอเชียเทคโนโลยี จำกัด บริษัท นิปปอนโคอิ จำกัด บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด บริษัท อาซท์ คอนซัลแทนส์ จำกัด และบริษัท พี บี เอเชีย จำกัด วงเงิน 826 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาบริหารโครงการ มีหน้าที่ให้การสนับสนุนการทำงานของรฟท.ทางด้านเทคนิค ด้านบริหารจัดการ การตรวจสอบการทำงานของผู้รับจ้างก่อสร้างและกลุ่มที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างการให้บริการที่ปรึกษาวิศวกรอิสระในการตรวจสอบและรับรองระบบต่างๆ ของโครงการ ซึ่งครอบคลุมถึงงานโยธาและงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล
"ที่ปรึกษาบริหารโครงการต้องเร่งดำเนินการปรับปรุงแบบสถานีกลางบางซื่อ รวมทั้งสรุปแบบรางให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งอาจต้องเพิ่มรางเป็น 4 ราง จากเดิม 3 ราง และวางแผนโครงสร้างรองรับโครงการรถไฟความเร็วสูงในอนาคต ซึ่งต้องใช้พื้นที่รวมกับรถไฟสายสีแดง ขณะเดียวกันต้องจัดวางแผนโครงสร้างให้สอดคล้องกับทางพิเศษศรีรัชซึ่งจะใช้พื้นที่รวมกันด้วย" นายชัชชาติ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในการทำงานของที่ปรึกษาบริหารโครงการนั้น จะเพิ่มหน้าที่ความรับผิดชอบกรณีที่งานก่อสร้างล่าช้า หรือไม่เป็นไปตามแผนงานด้วย จากเดิมที่จะมีบทปรับเฉพาะผู้รับเหมาก่อสร้างเพียงอย่างเดียว ซึ่งต่อไปนี้ที่ปรึกษาบริหารโครงการต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบหากเกิดปัญหาล่าช้าด้วย เนื่องจากเห็นว่าที่ปรึกษาโครงการถือเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องบริหารโครงการให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย