"ความผันผวนระยะสั้นทำให้เกิดความเสียหายได้พอๆกันกับความผันผวนระยะกลางและระยะยาว ถ้า ธปท.แทรกแซงแล้วแต่ยังเอาไม่อยู่ก็ต้องพิจารณาว่าควรจะต้องใช้วิธีใดเพิ่มเติมหรือไม่ ธปท.ต้องตัดสินใจ"นายเจน กล่าว
อย่างไรก็ตาม การใช้มาตราการเข้ามาดูแลค่าเงินต้องระมัดระวังเรื่องการเกิดผลข้างเคียง หากเงินบาทแข็งค่าและอ่อนค่าเร็วเกินไป อาจจะทำให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการต่างๆปรับตัวลำบากโดยเฉพาะการวางแผนการผลิต การส่งออก ซึ่งขณะนี้ได้เห็นถึงผลกระทบแล้วในบางอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก เช่น อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ อุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการอุปโภค บริโภค อตสาหกรรมอาหาร
"ทุกคนทราบโจทย์ความเดือดร้อน ซึ่งเชื่อว่า ธปท. ก็มีข้อมูลอยู่ในมือแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและจะเกิดอะไรขึ้น ต้องดูแลอะไร โดยเรื่องทั้งหมด ส.อ.ท.เคยนำเสนอไปแล้ว ขึ้นอยู่กับ ธปท. ต้องเร่งตัดสินใจ พิจารณามาตราการที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่ง ธปท.มีเครื่องมือหลายอย่างที่จะนำมาใช้ แต่เราอยากให้ใช้ให้ทันกาล ใช้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ส่งออกจนคาดการณ์ไม่ได้ ค้าขายยาก..เพราะที่ผ่านมาภาคเอกชนพยายามปรับตัวกันอย่างเต็มที่แล้ว" นายเจน กล่าว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมฯ กล่าวเสริมว่า ในระยะหลังค่าเงินบาทไม่ได้เคลื่อนไหวตามภูมิภาคเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากมีแรงซื้อจากนักลวทุนต่างชาติในตลาดพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 2.8 หมื่นล้านบาท ทำให้เงินบาทแข็งค่าสวนทางกับภูมิภาค และแม้ว่า ธปท.จะเข้ามาแทรกแซงโดยตลอดก็ตาม
"ขนาดแทรกแซงยัง 29.50 กว่า ถ้าไม่แทรกแซงอาจจะลงไป 29.30 บาท/ดอลลาร์ ธปท.จะต้องพิจารณาแล้ว หากรอการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 3 เม.ย.จะทันหรือไม่ เราเป็นห่วงเงินทุนระยะสั้นในตลาดพันธบัตรมากกว่าเงินในตลาดหุ้น"นายวัลลภกล่าว