ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ราคาทองปิดเพิ่ม $1.9 หลังดอลล์อ่อน, หุ้นตก, เงินเฟ้อสูง

ข่าวต่างประเทศ Saturday March 16, 2013 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ตัวเลขเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาด และตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,592.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 1,587.30-1,597.90 ดอลลาร์ สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาทองปรับตัวขึ้น 1%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 4.4 เซนต์ หรือ 0.15% ปิดที่ 28.851 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 1.60 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 3.5205 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,592.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ดีดขึ้น 4.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 775.65 ดอลลาร์/ออนซ์

ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อได้ถูกจุดปะทุขึ้น หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ขยายตัว 0.7% ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2552 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินพุ่งสูงถึง 9.1% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

โดยปกติแล้ว ราคาทองมีความอ่อนไหวต่อภาวะเงินเฟ้อ โดยทองถูกมองว่าเป็นเครื่องรักษามูลค่าและเป็นเครื่องมือปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ

เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำเช่นกัน ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเปรียบเทียบดอลลาร์สหรัฐกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ลดลงแตะ 82.234 จากระดับ 82.605 เมื่อวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงทองคำ มีราคาถูกลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ และช่วยกระตุ้นแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ

นอกจากนี้ ราคาทองยังปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากทองคำถูกมองว่าเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย และจะดึงดูดนักลงทุนเมื่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นตก โดยเมื่อวันศุกร์ ดัชนีหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลง หลังจากที่มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ปรับตัวลดลงแตะ 71.8 จากระดับ 77.6 ในเดือนก.พ. นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนธ.ค.2554

อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตในเดือนมี.ค. อยู่ที่ 9.2 ซึ่งแม้ลดลงเล็กน้อยจาก 10.0 ในเดือนก.พ. แต่ตัวเลขดังกล่าวก็เป็นบวกมาติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว ขณะที่ในวันเดียวกัน ธนาคารกลางสหรัฐได้เปิดเผยว่า การผลิตในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งครอบคลุมถึงโรงงาน สาธารณูปโภค และเหมือง ขยายตัว 0.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

ข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกนี้ได้จำกัดช่วงขาขึ้นของราคาทองคำส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนก็กำลังรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเป็นเวลา 2 วันในสัปดาห์หน้าด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ