รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงเกษตรฯ ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนโซนนิ่งจังหวัดและมีเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นฝ่ายเลขานุการ คือ การเข้าไปตรวจสอบข้อมูลการผลิตสินค้าเกษตรในพื้นที่ส่งกลับมายังกระทรวงเกษตรฯภายในวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ประกอบด้วย 1. ตรวจสอบพื้นที่ทำการเกษตรที่ได้เป็นประกาศเป็นพื้นที่เหมาะสมสำหรับพืช ปศุสัตว์ และประมง เพื่อทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยใช้ข้อมูลการตลาดเป็นตัวกำหนดปริมาณผลผลิตให้สอดคล้องกัน ทั้งการบริโภคในพื้นที่ การแปรรูป การเข้าสู่ระบบอุตสาหกรรม และการส่งออก ว่าในแต่ละพื้นที่นั้นต้องการการสนับสนุนจากรัฐในด้านใดบ้าง เช่น พันธุ์ แหล่งน้ำ ปุ๋ย ที่ดินทำกิน เทคโนโลยี การคมนาคม หรือทุน เป็นต้น
2. ตรวจสอบพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมหรือเหมาะสมน้อย เพื่อพิจารณาแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนอาชีพหรือการทำการเกษตรชนิดอื่นที่มีความเหมาะสมกว่า หรือต้องการให้ภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างไร และ 3. ตรวจสอบพื้นที่ทำการเกษตรกรรมที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือยู่ในพื้นที่ป่าว่ามีอยู่จำนวนเท่าใด และจะจัดการอย่างไร รวมทั้งเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ทั้งเรื่องที่ดินทำกินและการจัดการผลผลิตการเกษตรจากพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ข้อมูลจากทั้ง 3 พื้นที่ดังกล่าว เมื่อทางจังหวัดได้รายงานเข้ามาแล้ว กระทรวงเกษตรฯ จะรวบรวมเพื่อเสนอรัฐบาลในการกำหนดนโยบายหรือโครงการในการสนับสนุนการพัฒนาการผลิต หรือปรับเปลี่ยนการทำการเกษตรของประเทศให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ โดยยึดตลาดเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดได้ในระยะยาว
"การเรียกประชุมตเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจและทิศทางในการขับเคลื่อนนโยบายโซนนิ่งให้ตรงกัน เนื่องจากการที่จะปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกหรือการทำการเกษตรนั้น คนในพื้นที่ซึ่งใกล้ชิดกับเกษตรกรที่สุดจะต้องเป็นผู้รวบรวมข้อมูลความต้องการจากพื้นที่เสนอต่อรัฐบาลในการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ รวมถึงการปรับระบบความคิดของเกษตรกรสู่การเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ที่รู้จักคิดเป็น และวางแผนการผลิตให้สอดคล้องกับการตลาดด้วย
เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ จะเป็นเครื่องมือสำคัญให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อดำเนินการในเรื่องโซนนิ่งให้เกิดขึ้นให้ได้ เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดการโซนนิ่งไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากเป็นการสั่งการจากส่วนกลางไปในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับข้อมูลความต้องการจากพื้นที่มาเป็นนโยบายการปฏิบัติ ซึ่งในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ นายกรัฐมนตรีจะประชุมคอนเฟอร์เรนซ์ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ก็จะเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่เจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ ในการร่วมดำเนินการดังกล่าว" นายยุคล กล่าว