รายงานของ FFS ระบุว่า หนี้สินต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งครบกำหนดภายใน 1 ปี คิดเป็นสัดส่วน 18.1% ของยอดหนี้สินทั้งหมด ณ สิ้นเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์สในปี 2551 ในขณะที่ยอดเงินกู้จากต่างประเทศของธนาคารภายในประเทศอยู่ที่ 1.164 แสนล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนมกราคม
หลังจากที่ทำสถิติสูงสุดที่ 50.1% ณ สิ้นปี 2551 สัดส่วนเงินกู้ยืมระยะสั้นได้ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องสู่ระดับ 34.4% ณ สิ้นปี 2552 และ 26.3% ณ สิ้นปี 2554
การปรับตัวลงของเงินกู้ยืมในระยะสั้น มีสาเหตุเนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์ได้ชำระคืนหนี้ดังกล่าวด้วยเงินกู้ยืมจากต่างประเทศในระยะยาว ทั้งนี้ ธนาคารเกาหลีใต้ยังได้พยายามกระจายแหล่งเงินกู้ โดยเพิ่มการพึงพาจากเอชียและอเมริกาเหนือมากขึ้นและลดการพึงพายุโรปลง
นอกจากนี้ อันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ยังปรับตัวดีขึ้น โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกมูดี้ส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของเกาหลีใต้ขึ้นอีก 1 ขั้นเป็น Aa3 เมื่อเดือนส.ค. 2555 ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน