ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2947 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3074 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5099 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5077 ดอลลาร์สหรับ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0394 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0406 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 95.44 เยน จากระดับ 95.45 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9403 ฟรังค์
สกุลเงินยูโรดิ่งลงหลังจากยูโรโซนและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือไซปรัสวงเงิน 1 หมื่นล้านยูโรเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยข้อตกลงช่วยเหลือดังกล่าวระบุว่าผู้ฝากเงินในธนาคารของไซปรัสจะถูกเก็บภาษีแบบครั้งเดียว (one-off) สำหรับเงินฝาก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่แผนการช่วยเหลือทางการเงินประเทศในยูโรโซนระบุเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ฝากเงินในประเทศนั้นต้องเสียเงินโดยตรง
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐสภาของไซปรัสประกาศเลื่อนการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายในการกำหนดมาตรการภาษีแบบครั้งเดียว (one-off) สำหรับเงินฝากธนาคารที่มีการประกาศในช่วงสุดสัปดาห์ ออกไปเป็นช่วงเย็นวันอังคาร ตามเวลาท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนม.ค.อยู่ที่ 3.9 พันล้านยูโร (5 พันล้านดอลลาร์) หลังจากที่มียอดเกินดุลการค้า 1.08 หมื่นล้านยูโรในเดือนธ.ค.ปี 2555
ส่วนค่าเงินดอลลาร์อ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมี.ค.ปรับตัวลง 2 จุด สู่ระดับ 44 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2555 หรือต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 46 ในเดือนก.พ. ซึ่งส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะต้องใช้เวลาสักระยะในการกลับมาปรับตัวแข็งแกร่งอีกครั้ง