ข้อตกลงที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค. “สะท้อนถึงความเห็นพ้องกันของรัฐบาลไซปรัสและยูโรกรุ๊ป" นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวหลังการประชุมของรัฐมนตรีคลังยูโรโซน
ตามข้อตกลงช่วยเหลือดังกล่าว ผู้ฝากเงินในธนาคารของไซปรัสจะได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บภาษีแบบครั้งเดียว (one-off) สำหรับเงินฝากของพวกเขา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่แผนการช่วยเหลือทางการเงินประเทศในยูโรโซนระบุเงื่อนไขที่ทำให้ผู้ฝากเงินในประเทศนั้นต้องเสียเงินโดยตรง
ผู้มีเงินฝากในบัญชีธนาคารมากกว่า 100,000 ยูโรจะถูกหักภาษี 9.9% และจะมีการเก็บภาษี 6.75% สำหรับจำนวนเงินที่ต่ำกว่านั้น ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ไซปรัสระดมทุนได้ 5.8 พันล้านยูโร
“ผมเน้นย้ำว่าการจัดเก็บภาษีเงินฝากดังกล่าวเป็นมาตรการแบบครั้งเดียว" นายดิจเซลโบลมระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งหลังการประชุม
“มาตรการนี้ ประกอบกับการสนับสนุนทางการเงินระหว่างประเทศ จะมีขึ้นเพื่อฟื้นความอยู่รอดของระบบธนาคารไซปรัส และจะช่วยปกป้องเสถียรภาพทางการเงินในไซปรัสด้วย"
“หากไม่มีมาตรการนี้ ไซปรับจะเผชิญกับสถานการณ์ที่จะทำให้ผู้ฝากเงินอยู่ในภาวะที่เลวร้ายกว่านี้มาก" ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวย้ำ
นอกจากนี้ ยูโรกรุ๊ปยังสร้างความมั่นใจแก่ผู้ฝากเงินรายย่อยด้วยการระบุว่าพวกเขาจะควรได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากผู้ฝากเงินรายใหญ่
ทั้งนี้ ยูโรกรุ๊ปได้เรียกร้องให้ทางการและรัฐสภาของไซปรัสตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสามารถดำเนินมาตรการตามที่ตกลงกันไว้ได้โดยเร็ว ขณะที่ให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือไซปรัสในความพยายามด้านการปฏิรูปบนพื้นฐานของแผนการปรับโครงสร้างที่มีการตกลงกัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน