ทั้งนี้ เหตุที่ดัชนีฯ ลดลงเนื่องจากในเดือน ก.พ.มีวันทำงานน้อยกว่าปกติ เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่โรงงานบางแห่งหยุดดำเนินการ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการยังมีความกังวลและได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น(ค่าแรง พลังงาน ราคาวัตถุดิบ) ซึ่งสะท้อนได้จากดัชนีต้นทุนประกอบการที่ปรับตัวลดลง และมีค่าต่ำกว่า 100
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีพบว่า ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม, ยอดขายโดยรวม และปริมาณการผลิต ยังอยู่ในระดับดับเกิน 100 โดยเฉพาะดัชนียอดขายในต่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวสอดคล้องกับการส่งออกของไทยที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง
นายพยุงศักดิ์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการประกอบการอุตสาหกรรมในเดือนก.พ.พบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลในประเด็นผลกระทบจากราคาน้ำมันมากที่สุด รองลงมา คือ อัตราแลกเปลี่ยน, สภาวะเศรษฐกิจโลก, สถานการณ์การเมืองในประเทศ และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้นในปัจจัยราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอแนะไปถึงภาครัฐในเดือน ก.พ. คือ ต้องการให้ภาครัฐแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทั้งแรงงานฝีมือและไร้ฝีมือ อีกทั้งเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง พร้อมทั้งกำหนดนโยบายการบริหารจัดการด้านพลังงานอย่างยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางการเมือง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสนับสนุนให้สถาบันการเงินพิจารณาปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องของกิจการ รวมทั้งสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย