โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าร่วมกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจการลงทุนไทย-นิวซีแลนด์ และกล่าวสุนทรพจน์แก่นักธุรกิจชั้นนำของนิวซีแลนด์ ซึ่งตอบรับเข้าร่วมงานแล้วกว่า 100 ราย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนที่มีต่อประเทศไทย จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลในนครโอ๊คแลนด์เพื่อเข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และร่วมหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์
"ไทยและนิวซีแลนด์มีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยได้มีข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2548 อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาการลงทุนจากนิวซีแลนด์ในไทยยังมีจำนวนไม่มากนัก และส่วนใหญ่ยังเป็นการลงทุนขนาดเล็ก" รมว.อุตสาหกรรม กล่าว
พร้อมเห็นว่าแนวโน้มการลงทุนจากกลุ่มธุรกิจนิวซีแลนด์เริ่มเปลี่ยนไป โดยหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมถึงเป็นการแสวงหาตลาดส่งออกใหม่ๆ จึงเป็นโอกาสของไทยที่การจัดกิจกรรมครั้งนี้ จะเป็นการกระตุ้นให้กลุ่มนักธุรกิจนิวซีแลนด์ให้ความสนใจ และเข้ามาตั้งฐานผลิตสินค้าในประเทศไทย ซึ่งสามารถใช้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนได้ต่อไป
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าวว่า บีโอไอได้ร่วมมือกับสภาธุรกิจอาเซียน-นิวซีแลนด์ จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับประเทศนิวซีแลนด์ โดยให้มีการพบปะร่วมกันระหว่างนักธุรกิจไทย และผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งภาคเอกชนของไทยที่ให้ความสนใจเข้าร่วมเดินทางครั้งนี้ เช่น ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย รวมทั้งบริษัทชั้นนำของไทย เช่น ปตท., ปตท.สผ., ล็อกซเลย์, เครือเจริญโภคภัณฑ์, ไทยเบเวอเรจ และดัชมิลค์ เป็นต้น
โดยบีโอไอจะมุ่งเน้นชักจูงการลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทน เทคโนโลยีชีวภาพ เกษตรแปรรูป โลหะและชิ้นส่วน จากนิวซีแลนด์ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ขณะที่ภาคเอกชนไทยจะมีโอกาสได้รับทราบโอกาสการทำธุรกิจในนิวซีแลนด์ด้วยเช่นกัน
อนึ่ง นับตั้งแต่ปี 2513 มีโครงการลงทุนจากนิวซีแลนด์ได้รับส่งเสริมการลงทุนรวม 38 โครงการ เงินลงทุนรวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในกิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน ศูนย์จัดหาจัดซื้อชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ บริการธุรกิจภาพยนตร์ ซอฟต์แวร์ อาหารแปรรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น