นายกฯ เตรียมเยือนนิวซีแลนด์และปาปัวนิวกินีระหว่าง 24-25 มี.ค.56

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 19, 2013 16:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการเดินทางเยือนประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 21 — 24 มีนาคม 2556 ตามคำเชิญของนายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ และรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 24 — 25 มีนาคม 2556 ตามคำเชิญของนายปีเตอร์ โอนีล นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี

การเยือนครั้งนี้ มีรัฐมนตรีและผู้แทนภาคเอกชนสำคัญร่วมเดินทาง อาทิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงาน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายสุรนันท์ เวชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารภาคเอกชนไทยจากสาขาต่างๆ ที่ไทยและประเทศทั้งสองมีศักยภาพและความสนใจร่วมกัน เช่น พลังงาน ธุกิจสีเขียว การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ก่อสร้าง การศึกษา อาหาร

สำหรับการเยือนนิวซีแลนด์อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างไทยและนิวซีแลนด์ ครบรอบ 57 ปี (สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต พ.ศ. 2499) และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อในเสถียรภาพทางการเมืองและพลวัตทางเศรษฐกิจของประเทศไทย รวมทั้งบทบาทนำของไทยในอาเซียน ตลอดจนขยายความร่วมมือในด้านที่ไทยเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เช่น ความร่วมมือด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม แรงงาน และการเกษตร

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรี และมีประเด็นหารือครอบคลุม การขยายความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ และการบริหารจัดการเกษตรและอาหาร การเจรจาการค้าภายใต้กรอบความตกลง TNZCEP การศึกษา การส่งเสริมแรงงานไทยนิวซีแลนด์ การท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และประเด็นความร่วมมือระดับภูมิภาค

โดยจะเชิญนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์เข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย — แปซิฟิก ครั้งที่ 2 และร่วมกันผลักดันบทบาททั้งสองประเทศในเวทีระดับภูมิภาคภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ ได้แก่ ASEAN EAS และ APEC รวมทั้ง จะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษา และหนังสือแสดงเจตจำนงกรอบความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังจะได้นำคณะนักธุรกิจไทยเยี่ยมชมและดูงานการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Eco tourism) และเทคโนโลยีการเกษตร โดยจะได้เยี่ยมชมการบริหารจัดการฟาร์มโคนมและโรงงานของบริษัท Fonterra บริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากนมที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ด้วย

ในโอกาสนี้ มหาวิทยาลัย Auckland University of Technology (AUT) เมืองโอ๊คแลนด์ จะมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่นายกรัฐมนตรี ในฐานะที่มีบทบาทโดดเด่น และเป็นที่ยอมรับในเวทีระหว่างประเทศ อีกทั้ง เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทยที่มาจากการเลือกตั้งอีกด้วย

จากนั้น วันที่ 24 — 25 มีนาคม 2556 นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางเยือนรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี อย่างเป็นทางการครั้งแรก และเป็นการเปิดศักราชความสัมพันธ์ครั้งสำคัญกับประเทศในแถบหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ วัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเปิดตลาดใหม่ของสินค้าอุปโภคบริโภคไทย ซึ่งปาปัวนิวกินีมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และเป็นประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในบรรดา 14 หมู่เกาะ แต่ยังขาดการลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นโอกาสของภาคเอกชนไทย อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้ สร้างความเชื่อมั่นถึงเสถียรภาพด้านการเมืองและพลวัตรของเศรษฐกิจไทย รวมถึงบทบาทนำของไทยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการสำคัญคือการเข้าเยี่ยมคารวะผู้สำเร็จราชการปาปัวนิวกินี และหารือข้อราชการกับนายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี ซึ่งจะมีประเด็นการหารือครอบคลุมแนวทางการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคี การพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน พลังงาน และวิชาการ รวมทั้ง ความร่วมมือในกรอบพหุภาคี อีกทั้ง จะร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความตกลง และบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความตกลงด้านความร่วมมือทางวิชาการ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการหารือทวิภาคีระหว่างไทยและปาปัวนิวกินี และบันทึกความเข้าใจระหว่างสภาหอการค้าไทยและปาปัวนิวกินี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีมอบชุดทดสอบเบื้องต้นด้านความปลอดภัยของอาหารและการชันสูตรโรคให้แก่ปาปัวนิวกินี เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาด้านสาธารณสุขในปาปัวนิวกินี และพิธีมอบหนังสือ สื่อทัศนูปกรณ์ และอุปกรณ์ตกแต่งที่แสดงความเป็นไทยภายใต้โครงการ Thai Corner ให้แก่มหาวิทยาลัยปาปัวนิวกินี เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนหลักสูตรเกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์ให้ชาวปาปัวนิวกินีรู้จักไทยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน (people connectivity) อีกด้วย นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติ (PNG / LNG) เพื่อศึกษาแหล่งพลังงานสำรองของประเทศ และลู่ทางในการเพิ่มการลงทุนด้านพลังงานของไทยในปาปัวนิวกินี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ