(เพิ่มเติม) ครม.รับทราบกบอ.เสนอปรับวงเงินโครงการน้ำ-นำเงินที่ปรับลดจ้างที่ปรึกษา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 19, 2013 18:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)รับทราบตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้นำมติของคณะกรรมการกบอ.นำเสนอ ครม.เพื่อกำหนดวงเงินในการดำเนินโครงการ 3.01 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ วงเงินเดิม 3.4 แสนล้านบาท เป็นโครงการลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา 3 แสนล้านบาท และที่อื่นอีก 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้ใช้ไปแล้ว 3 หมื่นล้านบาท เช่น การยกระดับถนน สร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ จะเหลือเงิน 309,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากได้ระดมความคิดทั้งข้อเสนอของบริษัทต่างๆก็ได้นำมาปรับปรุงแผน สามารถประหยัดเงินไปได้ 8,730 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่เหลือนี้มาใช้ในการว่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมและบริหารโครงการ ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งอยู่ในกรอบวงเงินเดิม

"ในวันนี้บริษัทที่เข้าเงื่อนไขจะมารับ TOR และอีก 45 วัน ถึงรู้ผลว่าใครจะได้ทำงานและจะสามารถเริ่มงานได้"นายปลอดประสพ กล่าว

นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการคัดเลือกและอนุมัติงบประมาณ กล่าวว่า ในวันที่ 20 มี.ค.จะมีการชี้แจงรายละเอียดในทีโออาร์ โดยเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนซักถาม พร้อมทั้งหารือเกี่ยวกับสัญญาและข้อกฎหมายต่างๆ เพื่อให้เข้าใจเงื่อนไขในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งเรื่องเทคนิคของแต่ละโมดูลด้วย และกำหนดให้เอกชนนำเสนอภายในวันที่ 3 พ.ค. เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 1 กลุ่มบริษัทต่อ 1 โมดูลต่อไป

สำหรับรายละเอียดในแต่ละโมดูล ประกอบด้วย 1.Module A1: การสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างเหมาะสมและยั่งยืนในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง ยม น่าน สะแกกรัง และป่าสัก โดยใช้งบประมาณ 5 หมื่นล้านบาท สามารถกักเก็บน้ำได้ 1.3 พันล้าน ลบ.ม.โดยมีพื้นที่ดำเนินการอ่างเก็บน้ำ ดังนี้ พื้นที่ลุ่มน้ำแม่ยม ประกอบด้วย แม่น้ำยม ต.เตาปูน จ.แพร่ , แม่น้ำยมตอนบน ต.สะเอียบ จ.แพร่ , แม่ตีบ อ.งาว จ.ลำปาง , แม่อ้อน ต.บ้านอ้อน จ.ลำปาง , ห้วยโป่งผาก ต.เงียงมอก จ.ลำปาง , แม่แลง ต.เงียบตัง จ.ลำปาง , น้ำงิบ ต.งิบ จ.พะเยา และอ่างเก็บน้ำอื่นๆที่มีความเหมาะสม ทั้งนี้พื้นที่แม่วงศ์ ต.แม่เลย์ จ.นครสวรรค์ , แม่แจ่ม ต.แม่นาจาร จ.เชียงใหม่ , คลองวังชมพู ต.ชมพู จ.พิษณุโลก , แม่ทน ต.น้ำบ่อหนอง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ , คลองสวนหมาก ต.โปร่งน้ำรอน จ.กำแพงเพชร , ห้วยตั้ง ต.ป่าพลู จ.ลำพูน ,คลองขลุงล่าง ต.คลองลานพัฒนา จ.กำแพงเพชร , ห้วยฉลอม อ.บ้านตาก จ.ตาก , ห้วยพังงา อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ , ห้วยท่าพลต อ.เมือง จ.เพรชบูรณ์ , สมุน อ.เมือง จ.น่าน , ห้วยน้ำเฮี้ย อ.หล่มเก่า จ.เพรชบูรณ์ , คลองวังเจ้า อ.โกสัมพ จ.กำแพงเพชร และอ่างเก็บน้ำอื่นได้แก่ ปิง ยม น่า สะแกกรัง และป่าสัก ที่เหมาะสม

ทั้งนี้ ต้องมีการจัดทำผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) และผลกระทบทางสุขภาพ(เอชไอเอ) โดยผู้รับจ้างต้องร่วมดำเนินการจัดหาที่ดินหรือประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขออนุญาตใช้พื้นที่และต้องให้ความสำคัญในการอพยพ จ่ายค่าที่ดิน ค่ารื้อย้าย ที่ดินและทรัพย์สิน หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ และในการออกแบบเขื่อน ผู้รับจ้างต้องร่วมกับหน่วยราชการปลูกป่าทดแทนอย่างน้อย 3 เท่าของพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกน้ำท่วม พร้อมกับจัดค่าใช้จ่ายในการปลูกป่าและบำรุงรักษาต่อเนื่อง 3 ปี ในอัตราเฉลี่ยประมาณ 6,800 บาทต่อไร่ให้กับกรมอุทยาน สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และกรมป่าไม้

2.Module A2: การจัดทำผังการใช้ที่ดิน/การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลัก ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยการศึกษา วิเคราะห์และวางผังการใช้ประโยชน์ที่ดิน ใช้ระยะเวลาการดำเนินการภายใน 3 ปี และศึกษา ออกแบบ และก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของพื้นที่ชุมชน เขตเศรษฐกิจหลัก พื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณสถานในพื้นที่ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ท่าจีน ป่าสักและเจ้าพระยา ซึ่งกำหนดระยะเวลา 5 ปี โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 26,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 2 หมวด ได้แก่ การจัดทำผังการใช้ที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่โครงการ และหมวดการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชน เขตเศรษฐกิจหลัก

ทั้งนี้ พื้นที่ดำเนินการให้มีการศึกษาในพื้นที่ 30 จ. ในลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน สะแกกรัง ท่าจีน ป่าสักและเจ้าพระยา โดยกำหนดให้สำรวจ จัดทำและปรับปรุงแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและแผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งจะต้องจัดทำภาพถ่ายทางอากาศอัตราส่วน 1:4000 ใน 8 ลุ่มน้ำ โดยการบินใหม่หรือใช้แผนที่ที่มีอยู่ตั้งแต่ พ.ศ.2555 มาประกอบกันจนครบทุกลุ่มน้ำ ต้องจัดทำข้อมูลค่าระดับความสูงเชิงเลข แผนที่แสดงระดับความสูงและเส้นชัน แผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นปัจจุบัน แฯที่แหล่งน้ำและเส้นทางน้ำ อัตราส่วน 1:4000 แผนที่เชิงเลขเพื่อแสดงสภาพภูมิประเทศที่ทันสมัยและเป็นไปตามมาตราฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง

3.Module A3: การปรับปรุงพื้นที่เกษตรชลประทานในพื้นที่โครงการชลประทานเหนือจังหวัดนครสวรรค์และเหนือจังหวัดอยุธยาเพื่อเก็บกักน้ำหลากชั่วคราว โดยใช้งบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และสามารถจุน้ำได้ 3,000 ล้าน ลบ.ม. โดยกำหนดพื้นที่ดำเนินการ 2 ส่วน คือ พื้นที่เกษตรชลประทานเหนือจ.นครสวรรค์ โครงการส่งน้ำและบำรุงจัดหาท่าพัง (จ.นครสวรรค์) ดงเศรษฐี (จ.พิจิตร) พลายชุมพล (จ.พิษณุโลก) และพื้นที่ลุ่มน้ำต่ำ เพื่อใช้กักเก็บน้ำชั่วคราว เช่น พื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ , พื้นที่พิจิตร - ตะพานหิน , พื้นที่ชุมแสง-เก้าเลี้ยว , พื้นที่เหนือจ.นครสวรรค์ เช่น สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร โดยต้องควบคุมน้ำเป็นพิเศษในลุ่มน้ำยมด้วยการปรับปรุง ขุดคลองหนองบึง ที่ตื้นเขิน เชื่อมโยงกักเก็บพร้อมเสนอวิธีการบริหารจัดการ มาตรการชดเชย และมาตรการช่วยเหลือที่จำเป็น

4.Module A4: การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก และคันริมแม่น้ำของแม่น้ำสายหลัก คือ ปิง วัง ยม น่าน เจ้าพระยา สะแกกรัง ป่าสัก ท่าจีน ฯลฯ วัตถุประสงค์ให้มีการออกแบบ สำรวจ ศึกษา ปรับปรุงลำน้ำสายหลัก ยม น่าน เจ้าพระยา โดยกำหนดพื้นที่ดำเนินการ คือ ปรับปรุงขยายแม่น้ำพิจิตร ด้วยการขุดขยายให้เต็มแนวเขต แม่น้ำเดิมตลอดสาย , ขุดขยายคลองหกบาท คลองผันน้ำยม-น่าน จ.สุโขทัย ให้มีอัตราไหล 100 ลม.ต่อวินาที , ขุดคลองสายใหม่ ช่วงคอขวด จ.พระนครศรีอยุธยา จาก อ.บางบาล-อ.บางไทร ระยะทาง 23 กิโลเมตร อัตราไหล 1,200 ลบ.ต่อวินาที และสร้างแนวป้องกันตลิ่ง

5.Module A5: การจัดทำทางน้ำหลาก(Floodway) และ/หรือทางผันน้ำ (Flood diversion channel) ขนาดไม่น้อยกว่า 1,500 ลบ.ม/วินาที รวมทั้งจัดทำทางหลวง(ระดับประเทศ)ไปพร้อมๆ กัน โดยมีวัตถุประสงค์ให้มีการศึกษา ออกแบบและก่อสร้างทางผันน้ำด้านตะวันตกและตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาโดยให้ผันลงอ่าวไทยไม่น้อยกว่า 1,500 ลบ.ม./วินาที รวมทั้งสร้างถนนริมคลองที่ขุดใหม่เพื่อรองรับการคมนาคม โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 153,000 ล้านบาท โดยพื้นที่ดำเนินการได้แก่ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา โดยการปรับปรุงแม่น้ำช่วงชัยนาท-ป่าสักพร้อมส่วนต่อขยายจากแม่น้ำป่าสักลงสู่อ่าวไทยให้มีอัตราการไหล 300-400 ลบ.ม./วินาที และขุดขยายคลองระพีพัฒน์ คลองสิบสาม คลองรังสิตใต้ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตและคลองอื่นที่จำเป็น โดยให้ขุดขยายเต็มเขตแนวคลอง ขยายทำคันและก่อสร้างอาคารบังคับน้ำให้มีบานระบายน้ำกว้างเท่าความกว้างของคลอง เพื่อระบายน้ำชัยนาท-ป่าสักลงสู่อ่าวไทย ซึ่งกำหนดการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี

ส่วนด้านตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาจากเหนือนครสวรรค์(แม่น้ำปิง) ลงอ่าวไทย ต้องขุดทางผันน้ำให้ไหลไม่น้อยกว่า 1,200 ลบ.ม./วินาที โดยดำเนินการภายใน 5 ปี ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดยช่วงที่หนึ่งเริ่มจากเหนือนครสวรรค์ไปลงเหนือเขื่อนแม่กลอง ส่วนอีกช่วงคือเลือกขุดคลองผันน้ำฝั่งขวาขนานกับคลองส่งน้ำสายใหญ่ลงอ่าวไทย ที่ต.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยทำจุดเชื่อมเพื่อระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีนหรือขุดทางผันน้ำโดยการระบายน้ำผ่านแม่น้ำแม่กลองและแม่น้ำท่าจีนลงอ่าวไทยโดยธรรมชาติและขยายปรับปรุงลำน้ำที่ใช้ระบายน้ำจากเหนือนครสวรรค์สู่อ่าวไทย

นอกจากนี้ยังมีการกำหนดให้ขุดลอกปรับปรุงแม่น้ำท่าจีนตอนล่าง เพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำลงอ่าวไทย กรณีที่มีความเหมาะสม พร้อมขุดคลองลัด 3 แห่ง คือ คลองลัดงิ้วรายออกวัดไทยาวาส อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ความยาว 2.5 ก.ม. คลองลัดอีแท่น วัดหอมเกร็ดออกท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม ความยาว 1.8 ก.ม. และคลองลัดท่าข้าม ปากคลองข้างวัดท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม ความยาว 2.2 ก.ม. ทั้งนี้จะต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านการรุกตัวของน้ำเค็ม การกัดเซาะ หรือผลกระทบด้านอื่นๆ และต้องเสนอแนะแนวทางแก้ไขผลกระทบที่เหมาะสมด้วย โดยมีกำหนดในการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี รวมทั้งจะต้องมีการสร้างถนน 2-4 ช่องทางจราจรแต่ละฝั่งตลอดแนวด้วย

6.Module A6: การปรับปรุงระบบคลังข้อมูล ระบบพยากรณ์และเตือนภัยรวมทั้งการบริหารจัดการน้ำกรณีต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำกรณีต่างๆ ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ ได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการสำรวจ ออกแบบ จัดหาพร้อมติดตั้งอุปกรณ์ทั้ง Software และ Hardware เพื่อตั้ง Single Command Center และจัดทำคลังข้อมูลในการพยากรณ์และเตือนภัย รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำ โดยใช้งบประมาณไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการภายใน 3 ปี พร้อมบำรุงรักษาและปรับปรุงให้ทันสมัยอีก 2 ปี รวมเป็น 5 ปี

โดยกำหนดให้ตั้ง Single Command Center และพัฒนาระบบ Single command ในการบริหารจัดการน้ำและภัยพิบัติทางธรรมชาติของรัฐบาล โดยจัดสร้างอาคารศูนย์บัญชาการในพื้นที่ที่ทางราชการจัดให้ พร้อมระบบจัดการอาคารและระบบแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 8,200 ตารางเมตร พร้อมระบบสาธารณูปโภคและระบบการสื่อสารที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพสูง

นอกจากนี้ยังกำหนดให้เพิ่มประสิทธิภาพของระบบโทรมาตรในปัจจุบันและพัฒนาระบบการพยากรณ์เพื่อบริหารจัดการน้ำ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาระบบการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สภาพการไหลและพยากรณ์น้ำท่วม

7.Module B1: การสร้างอ่างเก็บน้ำอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ กำหนดให้ศึกษา สำรวจ ออกแบบ และศึกษาการสร้างอ่างเก็บน้ำที่สามารถกักเก็บน้ำได้ 450 ล้าน ลบ.ม.โดยใช้งบประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท พื้นที่ดำเนินการ ประกอบด้วย พัฒนาลุ่มน้ำชีตอนบน , คลองมะเดื่อ อ.เมือง จ.นครนายก , โปร่งขุนเพชร อ.หนองบัวระเหง จ.ชัยภูมิ , ท่าแซะ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร , ลำพระยาธาร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี , ลำสะพุง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ และลุ่มน้ำอื่นๆที่เหมาะสม

8.Module B2: การจัดทำผังการใช้ที่ดิน/การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลัก ในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ งบประมาณดำเนินการ 1.4 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น 2 หมวด คือ การจัดผังการใช้ที่ดิน และการพัฒนาที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลัก

และ 9.Module B3: การปรับปรุงสภาพลำน้ำสายหลัก และคันริมแม่น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ ในโครงการเพื่อสำรวจ ศึกษาปรับปรุงคลอง ร.1 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ให้สามารถผันน้ำลงอ่าวไทยได้ไม่น้อยกว่า 1,200 ลบ.ม.ต่อวินาที ใช้งบประมาณดำเนินการ 5 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ