บริษัทน้ำมันและก๊าซจำนวน 52 บริษัทได้ยื่นประมูล 407 ฉบับในพื้นที่สัมปทาน 320 แปลง โดยมูลค่าการประมูลโดยรวมเท่ากับ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในการเช่าซื้อที่เน้นย้ำให้เห็นถึงการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งยืนยันถึงความสนใจของผู้ประกอบการในการลงทุนในพื้นที่ซึ่งลึกลงไปอีก
บริษัทบีพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ไม่ได้ร่วมการประมูลในครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นในเมืองนิวออร์ลีนส์ของรัฐลุยเซียนา หลังการตัดสินใจของคณะบริหารของปธน.โอบามาในปิดกั้นไม่ให้บริษัททำสัญญาใหม่ๆกับรัฐบาล เนื่องจากเหตุการณ์รั่วไหลของน้ำมันดิบจากแท่นขุดเจาะดีพวอเตอร์ ฮอไรซอนของบริษัทบีพีเมื่อปี 2553
นายทอมมี โบโดร ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการพลังงานในมหาสมุทร (BOEM) ซึ่งดำเนินงานจัดประมูลกล่าวว่า การประมูลประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง และการซื้อขายก็เป็นไปอย่างคึกคักมาก
“การประมูลเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าอ่าวเม็กซิโก โดยเฉพาะอ่าวน้ำลึก จะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาพลังงานในอนาคตของประเทศ"
ทั้งนี้ ผู้ประมูลส่วนใหญ่มุ่งความสนใจไปที่บริเวณร่องน้ำวอล์คเกอร์ของอ่าวเม็กซิโก โดยมีบริษัท 6 รายแข่งขันเสนอประมูลแปลงสัมปทานถึง 24 แห่ง ขณะที่เชฟรอน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานข้ามชาติของอเมริกา และสแตทออยล์ ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซสัญชาตินอร์เวย์ได้ประกาศการค้นพบแหล่งทรัพยากรที่สำคัญครั้งใหญ่ในบริเวณดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน