ปัจจัยหลักมาจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงเศรษฐกิจภายในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่องและผลจากโครงการรถยนต์ใหม่คันแรก ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,146,101 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 246,761 ล้านบาท หรือ 27.4% เป็นผลจากการที่ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณก่อนมีผลบังคับใช้ล่าช้า ประกอบกับรัฐบาลได้เร่งดำเนินนโยบายทางการคลังของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 338,195 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 115,074 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 453,269 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 155,492 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ ขาดดุลทั้งสิ้น 297,777 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือน ก.พ.56 มีจำนวนทั้งสิ้น 262,560 ล้านบาท
"การขาดดุลเงินสดของรัฐบาลที่เกิดขึ้นเป็นไปตามความตั้งใจของรัฐบาลในการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่เงินคงคลังยังอยู่ในระดับที่สูง สะท้อนให้เห็นถึงฐานะการคลังของรัฐบาลที่อยู่ในระดับที่เข้มแข็งและพอเพียงสำหรับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอย่างแน่นอน" นายสมชัยฯ กล่าว