ทั้งนี้ ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.2983 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2916 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5220 จากระดับ 1.5180 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.0445 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0450 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 94.44 เยน จากระดับ 94.91 เยน It edged down to 0.9412 Swiss francs from 0.9463
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นหลังจากพรรครัฐบาลของไซปรัสเปิดเผยว่า อาจจะมีการบรรลุแนวทางแก้ไขวิกฤติหนี้ของประเทศภายในกรอบที่กำหนดขึ้นโดยสพภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะช่วยให้ไซปรัสได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากอียู และจะช่วยให้ไซปรัสสามารถหลีกเลี่ยงการล่มสลายของระบบการเงินและการถอนตัวออกจากยูโรโซนด้วย
นอกจากนี้ ยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากกรีซและไซปรัสได้บรรลุข้อตกลงที่จะแยกสาขาของธนาคารพาณิชย์ไซปรัสที่เปิดดำเนินการอยู่ในกรีซ ภายหลังการหารือระหว่างประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส และนายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราส ของกรีซ
แถลงการณ์ระบุว่า ผู้นำทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงแยกสาขาด้วยเงื่อนไขที่น่าพอใจที่สุดภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน โดยไซปรัสจะได้ประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญจากข้อตกลงนี้
นายยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังกรีซได้ประกาศว่า ธนาคารพาณิชย์ของกรีซจะเข้าซื้อสาขาของธนาคารไซปรัสในประเทศกรีซ ด้วยการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลไซปรัส
รมว.คลังกรีซระบุในแถลงการณ์ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยปกป้องกรีซ เนื่องจากเงินฝากทั้งหมดในธนาคารของไซปรัสจะได้รับความคุ้มครอง "เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อปกป้องเสถียรภาพของระบบการเงิน และสามารถหาวิธีแก้ปัญหาได้เพื่อความอยู่รอดของไซปรัสและประชาชนในประเทศ"
สื่อท้องถิ่นของกรีซรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า มีธนาคารของกรีซอย่างน้อย 3 รายที่แสดงความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์สาขาของธนาคาร 2 แห่งของไซปรัสที่เปิดดำเนินธุรกิจอยู่ในกรีซ