กิจกรรมสำคัญภายในงาน กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบให้บีโอไอชี้แจงแก่นักลงทุนญี่ปุ่นถึงทิศทางและแนวทางการปรับปรุงยุทธศาสตร์ใหม่ด้านการลงทุนของบีโอไอ ขณะเดียวกันยังเปิดเวทีให้ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่มีชื่อเสียงร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับของการลงทุนในประเทศไทย
"การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่างบีโอไอและนิตยสารนิเคอิที่จัดงานในรูปแบบของการสัมมนาทางธุรกิจ และเป็นงานสัมมนาทางธุรกิจครั้งแรกนอกประเทศญี่ปุ่นของนิตยสารนิเคอิฯ ที่มีผู้สนใจเป็นนักธุรกิจจากกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งนอกจากจะเป็นเวทีชี้แจงถึงโอกาสและศักยภาพของไทยแก่นักธุรกิจญี่ปุ่นแล้ว ยังจะเป็นการเน้นบทบาทที่สำคัญของไทยในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี ซึ่งประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงอาเซียนกับภูมิภาคอื่นๆ ครอบคลุมทุกด้านในการลงทุน" นายประเสริฐ กล่าว
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลที่ได้จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำรายละเอียดของยุทธศาสตร์ใหม่ให้มีความชัดเจนก่อนประกาศใช้ต่อไป
โดยในงานสัมมนาจะมีบริษัทเอกชนรายใหญ่ของไทยร่วมให้ขัอมูลและแลกเปลี่ยนประสบการณ์การลงทุนที่น่าสนใจ เช่น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย ร่วมบรรยายพิเศษ ภายใต้หัวข้อ "ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการร่วมมือระหว่างไทย-ญี่ปุ่น", นายวิโรจน์ ศิริธนาศาสตร์ ประธานสมาพันธ์สมาคมอุตสาหกรรมสนับสนุน บรรยายพิเศษหัวข้อ “บทบาทการเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของอาเซียน" รวมถึงการบรรยายพิเศษถึงศักยภาพของประเทศไทยโดยตัวแทนจาก สศช. ซึ่งเป็นนักวิชาการญี่ปุ่นที่มีความรู้เรื่องประเทศไทยและอาเซียนเป็นอย่างดี ในหัวข้อ "ประเทศไทย:ฐานการทำธุรกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และแผนการพัฒนาโครงการท่าเรือน้ำลึกทวาย" เป็นต้น
"ปัจจุบันนักธุรกิจญี่ปุ่นให้ความสำคัญอย่างมากกับการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในกลุ่มนักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่เริ่มออกไปลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น บีโอไอมั่นใจว่าข้อมูลจากการสัมมนาครั้งนี้จะทำให้นักธุรกิจญี่ปุ่นเชื่อมั่นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นแหล่งรองรับการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาค และจะเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต" นายอุดมกล่าว