"จะนำมาใช้ได้หรือไม่จะต้องดูความคุ้มค่าเชิงพาณิชย์ ที่ผ่านมาการส่งออกน้ำมันดิบเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ซึ่งจะต้องมีการรายงานต่อกรมฯ และกรมฯ จะสอบถามโรงกลั่นน้ำมันในประเทศว่าใช้น้ำมันดังกล่าวได้หรือไม่ โดยยืนยันราคาส่งออกเป็นไปตามราคาตลาดโลก ไม่ได้ส่งออกในราคาต่ำแต่อย่างใด" นายทรงภพ กล่าว
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้ผลิตก๊าซธรรมชาติในระดับสูงสุดแล้วที่ 3,680 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ความต้องการมีสูงถึง 4,850 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งเป็นก๊าซฯ ที่ต้องนำเข้าจากพม่าจากโครงการพัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือ เจดีเอ และแอลเอ็นจี หากไม่มีสำรวจและผลิตเพิ่ม กำลังผลิตจะคงที่ในระดับนี้ภายใน 5 ปี และภายใน 10 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตจะเหลือ 2,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และภายใน 20 ปี กำลังการผลิตจะลดเหลือ 1,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเท่านั้น
โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังจะให้สัมปทานปิโตรเลียม รอบ 21 จำนวน 22 แปลงสำรวจ คาดว่า จะมีก๊าซฯ สำรองประมาณ 3-5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต และมีน้ำมันดิบ 10-20 ล้านบาร์เรลเท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมาก ขณะเดียวกันสัญญาการผลิตปิโตรเลียมในสัญญาฉบับที่ 1 จะหมดอายุในปี 2565 กำลังผลิตรวมประมาณ 2,200 ลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากแหล่งผลิตของเชฟรอนในแหล่ง U1-2-3 และแหล่งบงกช ของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) หรือ ปตท.สผ. ดังนั้นขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลจะตัดสินใจว่าจะพิจารณาเรื่องการให้สัมปทานใน 2 แหล่งนี้อย่างไร โดยจะต้องเร่งตัดสินใจเพราะการวางแผนผลิตปิโตรเลียมจะต้องใช้เวลานาน
อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การวางแผนการผลิตและการนำเข้าพลังงาน เพราะความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในอีก 20 ปีข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หากไม่สามารถจัดหาปิโตรเลียมเพิ่มขี้นให้สอดคล้องกับความต้องการ จะกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ด้านนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานกรรมการปิโตรเลียม ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่ได้ผลิตน้ำมันดิบวันละ 1 ล้านบาร์เรล โดยในปี 2555 ไทยผลิตน้ำมันดิบได้เพียง 145,000 บาร์เรลต่อวัน โดยมาจากแหล่งในทะเล 111,640 บาร์เรลต่อวัน และแหล่งบนบก 33,360 บาร์เรลต่อวัน
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่ารัฐบาลสำรวจพบแหล่งน้ำมันมหาศาลที่จังหวัดแพร่ แต่ปกปิดไม่ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลนั้น พล.ท.สุรศักดิ์ ศรีศักดิ์ เจ้ากรมการพลังงานทหาร หนึ่งในคณะกรรมการปิโตรเลียม ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เพราะจากการสำรวจทางธรณีวิทยาแล้วไม่พบหินต้นกำเนิดของน้ำมันแต่อย่างใด จึงได้มีการปิดบ่อน้ำมันไว้ อย่างไรก็ตาม ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติพร้อมพิสูจน์ข้อเท็จจริงโดยเปิดให้เยี่ยมชมพื้นที่ขุดเจาะ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส