ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.2857 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2863 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5156 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5181 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0458 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 94.51 เยน จากระดับ 94.01 เยน แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9482 ฟรังค์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง 5.7% ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในระดับ 3.9% ด้วยมูลค่ายอดสั่งซื้อที่ 2.321 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และฟื้นตัวขึ้นจากที่ร่วงลง 3.8% ในเดือนม.ค.
ขณะที่ราคาบ้านเดือนม.ค.ใน 20 เมืองของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.1% ทำสถิติขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2549 ซึ่งเป็นช่วงก่อนยุคฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์
ส่วนสกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าวิกฤตการณ์ของไซปรัสจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆในยูโรโซน หลังจากนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป กล่าวว่าแผนปรับโครงสร้างธนาคารไซปรัสอาจกลายเป็นแม่แบบที่จะนำมาใช้กับประเทศอื่นในยุโรป