ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.2857 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5129 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5156 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0446 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0490 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 94.39 เยน จากระดับ 94.51 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9546 ฟรังค์ จากรระดับ 0.9482 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) หดตัวลง 0.4% สู่ระดับ 104.8 ในเดือนก.พ.จากเดือนม.ค. ส่วนดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนม.ค. ถูกปรับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 105.2 จากเดิมที่รายงานว่าอยู่ที่ 105.9
ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนของไซปรัส โดยไซปรัสมีกำหนดจะเปิดเผยแผนควบคุมเงินทุนเพื่อป้องกันเงินทุนไหลออกในการเปิดดำเนินการอีกครั้งของธนาคารพาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ โดยธนาคารพาณิชย์ของไซปรัสๆได้ปิดทำการมานับตั้งแต่อียูและไซปรัสได้บรรลุข้อตกลงพื้นฐานเกี่ยวกับเงื่อนไขของมาตรการให้ความช่วยเหลือมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโร ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยกอบกู้วิกฤตในภาคการธนาคารของไซปรัส
นอกจากนี้ ยูโรยังได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า อุปสงค์ในพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีได้ปรับตัวลงหลังพรรคการเมืองของอิตาลียังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีของรัฐบาลอิตาลีแตะที่ 3.65% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ในขณะที่รัฐบาลประมูลขายพันธบัตรอายุ 10 ปีได้ 3 พันล้านยูโร โดยอุปสงค์ในการประมูลอยู่ที่ 1.22 เท่า ลดลงจาก 1.61 เท่าในการประมูลเมื่อเดือนก่อน