"ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปฯ สูงขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานฯ เป็นไปตามภาวะการบริโภค และถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ เนื่องจากแรงกดดันต่อเงินเฟ้อด้านราคาสินค้าไม่ได้สูงขึ้นมาก ประกอบกับภาครัฐยังคงมีมาตรการดูแลและควบคุมราคาสินค้าและพลังงาน" นางวัชรี กล่าว
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เดือน มี.ค.56 อยู่ที่ 102.87 เพิ่มขึ้น 1.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.01% จากเดือน ก.พ.56 โดยตัวเลข Core CPI เฉลี่ยไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 1.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน มี.ค.56 อยู่ที่ 106.79 เพิ่มขึ้น 3.66% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.26% จากเดือน ก.พ.56 ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน มี.ค.56 อยู่ที่ 103.38 เพิ่มขึ้น 2.01% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.04% จากเดือน ก.พ.56
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า สาเหตุที่ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปฯ ปรับเพิ่มขึ้น 2.69% จากเดือนก่อนเป็นผลจากการปรับตัวสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่มีไม่แอลกอฮอล์ 3.66% ได้แก่ ข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์ เนื้อสัตว์ ผักและผลไม้ เครื่องประกอบอาหาร
ส่วนดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่มที่สูงขึ้น 2.01% เป็นผลมาจากการปรับตัวสูงขึ้นของสินค้าในหมวดเคหะสถาน เครื่องนุ่งห่ม การตรวจรักษา พาหนะ และการขนส่ง
สำหรับอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.1% ใกล้เคียงกับช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ที่ระดับ 3.09% เนื่องจากราคาสินค้ายังคงทรงตัวในระดับใกล้เคียงกัน
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ กำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ไว้ที่ 2.8-3.4% ภายใต้สมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 100-120 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 28.50-32.50 บาท/เหรียญสหรัฐ และภาครัฐยังคงมีมาตรการดูแลค่าครองชีพให้กับประชาชนต่อไป