Analysis: นักวิเคราะห์คาดนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสกุลเงินดอลล์ในไตรมาส 2

ข่าวต่างประเทศ Monday April 1, 2013 14:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ดอลลาร์จะยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของสหรัฐและการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางในทั่วโลก

ข้อมูลสถิติบ่งชี้ว่า ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 3% เมื่อเทียบกับยูโร, 9% เมื่อเทียบกับเยน และ 4% เมื่อเทียบกับปอนด์อังกฤษในไตรมาสดังกล่าว

ผลการสำรวจของกองทุนของแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ บ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มของดอลลาร์

การสำรวจดังกล่าวพบว่า ความเชื่อมั่นต่อดอลลาร์เดือนมี.ค.ได้พุ่งแตะสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีการสำรวจความเห็น โดย 72% ของผู้ที่ตอบคำถามคาดว่า ดอลลาร์จะปรับตัวขึ้นในปีหน้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 30 จุดจากเดือนก่อน

ไมเคิล ฮาร์ทเนตต์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนของบี ออฟ เอ เมอร์ริล ลินช์ โกลบอล รีเสิร์ซ กล่าวว่า “เศรษฐกิจที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของสหรัฐเพราะได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดที่อยู่อาศัยและความมีอิสระภาพด้านพลังงานจะนำไปสู่แนวโน้มการปรับตัวขึ้นของดอลลาร์"

ด้านวิลเลม บุยเทอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปกล่าวว่า “อันที่จริง ยูโรได้เริ่มต้นปี 2556 อย่างแข็งแกร่ง โดยปรับตัวขึ้นจาก 1.32 สู่ระดับสูงสุดในสัปดาห์แรกของเดือนก.พ.ที่ 1.37 ในขณะที่อัตราส่วนอยูในระดับต่ำที่ 1.22 การปรับตัวขึ้นของยูโรเนื่องมาจากการคุมเข้มนโยบายการเงินของกลุ่มประเทศยูโรโซน เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ

นายบุยเทอร์กล่าวต่อไปว่า การออกนโยบายการเงินเพิ่มในสหรัฐ อังกฤษ และญี่ปุ่น ได้ฉุดค่าเงินของประเทศลง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นที่การขยายนโยบายการเงินเพียงเล็กน้อยจะส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนแข็งแกร่งขึ้นในระดับที่เกิดความอึดอัด

แต่อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า การเริ่มต้นที่ดีของยูโรได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเพียงระยะสั้นและคาดว่ายูโรจะลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์

นายอเลสสิโอ เดอ ลอนกีส รองประธานและผู้จัดการพอร์ตโฟลิโอของอ็อพเพ็นไฮเมอร์ เคอร์เรนซี อ็อพพอร์ทูนิตี้ ฟันด์ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของซิหัวว่า “ยูโรมีแนวปรับตัวลงอันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของยุโรปมีปัญหาทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง"

บทวิเคราะห์โดยหยาง ฉี จากสำนักข่าวซินหัว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ