นายพลชัย วินิจฉัยกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ MCOT กล่าวว่า ทาง อสมท และ กฟผ. ได้แลกเปลี่ยนความร่วมมือทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้เกิดการลดใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดย อสมท พร้อมสนับสนุนการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่มีอย่างครอบคลุมทั้งสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อใหม่ เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้เห็นคุณค่า ตระหนักถึงพลังงาน และร่วมกันอนุรักษ์พลังงาน โดยจะดำเนินการควบคู่กับการรณรงค์ภายในองค์กรเพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ประชาชนทั่วไป
การอนุรักษ์พลังงานถือเป็นวาระสำคัญของประเทศและนานาชาติ เนื่องจากพลังงานในปัจจุบันเริ่มลดปริมาณลงอย่างต่อเนื่อง จากการใช้กันอย่างสิ้นเปลือง ส่งผลกระทบให้เกิดการขาดแคลนพลังงานในอนาคต ซึ่ง บมจ.อสมท ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา จึงได้มีการรณรงค์ให้ช่วยกันอนุรักษ์พลังงานมาโดยตลอด อาทิ โครงการ MCOT Let’s green ที่รณรงค์ให้พนักงานช่วยกันประหยัดพลังงาน โดยเริ่มตั้งแต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ไปจนถึงการช่วยกันประหยัดพลังงานให้กับองค์กร ด้วยการร่วมลดใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าบางส่วน เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ หลอดไฟ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนนี้
ด้านนายพงษ์ดิษฐ พจนา รองผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวถึงความร่วมมือว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีของการเป็นผู้นำการจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า ให้สอดคล้องกับนโยบายอนุรักษ์พลังงานของรัฐบาล กฟผ. ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงผลสำเร็จในการลดลงของปริมาณการใช้ไฟฟ้ากว่า 2,800 เมกะวัตต์ และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่สิ่งแวดล้อมกว่า 10 ล้านตัน
สำหรับวิกฤติปัญหาด้านพลังงานของประเทศไทยในปัจจุบัน กฟผ. ได้ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องมุ่งรณรงค์ ส่งเสริม และตอกย้ำให้ทุกภาคส่วน ให้ความร่วมมือลดใช้พลังงานอย่างจริงจัง โดยในช่วงฤดูร้อนนี้ กฟผ. ได้วางมาตรการรณรงค์เร่งลดการใช้ไฟฟ้า รวมถึงสนับสนุนงานอนุรักษ์พลังงานให้กับหน่วยงานภายนอกอย่างจริงจัง ดังนั้นในส่วนการดำเนินงานความร่วมมือด้านส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
กฟผ. พร้อมให้การสนับสนุนและความร่วมมือในการเป็นที่ปรึกษาด้านการประหยัดพลังงาน เพื่อที่จะทำให้ อสมท ประสบผลสำเร็จในการลดใช้พลังงานตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10 % ซึ่งคาดจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 1.12 ล้านหน่วยต่อปี หรือปีละประมาณ 4.25 ล้านบาท และลด CO2 ได้ 653 ตันต่อปี
มาตรการลดใช้พลังงานภายใน อสมท ที่กำหนดไว้ในเบื้องต้น อาทิ การเปลี่ยน Chiller ใหม่ ขนาด 175 ตัน , การปรับปรุงและบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ ของ Chiller อย่างเหมาะสม , การใช้โอโซนในระบบ หอพึ่งน้ำเย็น และการเปลี่ยนหลอด LED ทดแทนหลอดประสิทธิภาพต่ำ เป็นต้น