ในรายงานการประเมินการค้าแห่งชาติปี 2556 ว่าด้วยกำแพงการค้าต่างชาติ ที่มีการนำเสนอต่อสภาคองเกรสนั้น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐระบุว่า "ความหลากหลายของกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษีได้ขัดขวางการเข้าถึงตลาดรถยนต์ของญี่ปุ่น"
รายงานดังกล่าวด้ตั้งข้อสังเกตว่า กำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษีประเภทหนึ่งก็คือ "การขาดโอกาสที่เท่าเทียมสำหรับสินค้าสหรัฐที่มีการนำเข้าภายใต้โครงการรับรองกระบวนการจัดการที่ได้รับสิทธิพิเศษ ในการที่จะได้ประโยชน์จากแผนการสร้างแรงจูงใจด้านการคลังชั่วคราว"
ส่วนกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษีในลักษณะอื่นๆ ได้แก่ประเด็นที่เกี่ยวกับมาตรฐานและการรับรอง และอุปสรรคที่ขัดขวางการพัฒนาเครือข่ายการจัดจำหน่ายและบริการ
“ยอดขายโดยรวมของรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สหรัฐในญี่ปุ่น ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่สร้างความวิตกอย่างมาก" รายงานระบุ พร้อมกับเสริมว่า รัฐบาลสหรัฐได้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นจัดการปัญหาเกี่ยวกับกำแพงการค้าทุกรุปแบบในตลาดรถยนต์ญี่ปุ่น"
ในขณะที่ตลาดรถยนต์ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญซึ่งสหรัฐจะใช้อ้างอิงในการตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้รัฐบาลญี่ปุ่นเข้าร่วมการเจรจาเปิดเสรีการค้าหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) หรือไม่นั้น รายงานในภาคยานยนต์ยังคงมีเนื้อหาที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับรายงานของปีก่อน
สำหรับภาคประกันภัย รายงานดังกล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการกับความกังวลของสหรัฐ เช่น การสร้างความมั่นใจเกี่ยวกับการปฏิบัติด้านการกำกับดูแลที่เท่าเทียมกันระหว่างบริษัทในเครือของบริษัทไปรษณีย์ญี่ปุ่นและบริษัทของภาคเอกชน
รายงานระบุว่า ตลาดการประกันภัยเอกชนของญี่ปุ่นมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีเบี้ยประกันสุทธิโดยตรงราว 4.625 แสนล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน