ทั้งนี้ ได้มีการสรุปข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.เสนอให้ยกเลิกกฎอัยการศึกบริเวณด่านชายแดน ส่วนกรณีพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคงในบางพื้นที่ก็ให้นำ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรมาบังคับใช้ 2.ขอให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ด่านชายแดน ทั้งจุดผ่านแดนถาวรและจุดผ่อนปรนทางการค้าทั้งหมด โดยให้ตำรวจตระเวนชายแดนเข้ามาทำหน้าที่แทน เพื่อลดความตรึงเครียดในพื้นที่
3.เสนอให้แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกว่า 40 ฉบับ เพื่อให้สอดคล้องกับการค้าชายแดน 4.เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการจัดระเบียบส่วนราชการในพื้นที่ชายแดนเพื่อความเป็นเอกภาพ และ 5.สนับสนุนให้เกิดเมืองคู่แฝดชายแดนทั้ง 4 ด้านของประเทศ ให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนขึ้นเพื่อส่งเสริมการลงทุน
ด้านพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ยอมรับว่า ข้อเรียกร้องต่างๆ เหล่านี้ครอบคลุมถึง 31 จังหวัดชายแดน ซึ่งรวมถึงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย พร้อมมั่นใจว่าการเสนอให้ตำรวจตระเวนชายแดนทำหน้าที่หลักแทนทหารจะไม่กระทบความมั่นคงในพื้นที่ เนื่องจากทหารที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นหน่วยเฉพาะกิจ
พร้อมมองว่า แนวทางของที่ประชุมคณะกรรมาธิการเป็นการสร้างดุลยภาพระหว่างความมั่นคงและการค้าควบคู่กัน และยอมรับว่าแนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับกระบวนการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่และจะทำให้บรรยากาศชายแดนเกิดสันติภาพและให้เกิดการค้าขายในพื้นที่ได้สะดวกมากขึ้น