เงินบาทเปิด 29.25/27 แนวโน้มแข็งค่า หลังญี่ปุ่นเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 5, 2013 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.25/27 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากเมื่อเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 29.35/36 บาท/ดอลลาร์

แนวโน้มเงินบาทวันนี้มีโอกาสกลับมาแข็งค่า หลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศเพิ่มขนาดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะมีผลให้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น

"แนวโน้มวันนี้บาทน่าจะแข็งค่า จากปัจจัยเรื่องเงินเยนเป็นสำคัญหลังที่มีการประกาศว่าจะ trade เงินเข้าระบบเศรษฐกิจ ส่วนปัจจัยอื่นที่ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอังกฤษคงอัตราดอกเบี้ย ก็ไม่ค่อยมีผลต่ออะไรมาก ตลาดน่าจะตอบรับกับข่าวค่าเงินเยนมากกว่า" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.25-29.35 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคาร ธปท.วันนี้อยู่ที่ 29.3800 บาท/ดอลลาร์
  • เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.83/85 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2933/2935 ดอลลาร์/ยูโร
  • สกุลเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(4 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ประกาศเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงิน ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับมูลค่าของสกุลเงินเยนอย่างมาก ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานสหรัฐ
  • คณะกรรมการบีโอเจมีมติว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลทุกประเภท รวมถึงพันธบัตรอายุ 40 ปี พร้อมกับขยายโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุการไถ่ถอนในปัจจุบันไม่ถึง 3 ปี เป็น 7 ปี นอกจากนี้บีโอเจจะซื้อกองทุน ETF วงเงิน 1 ล้านล้านเยนต่อปี และซื้อกองทุน REIT วงเงิน 3 หมื่นล้านเยนต่อปี พร้อมกับจะระงับ "หลักการธนบัตร (banknote principle)" ซึ่งเคยห้ามไม่ให้บีโอเจถือครองพันธบัตรรัฐบาลมากกว่ามูลค่าของธนบัตรที่หมุนเวียนในระบบ
  • นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ 7.7%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ได้ประกาศใช้มาตรการใหม่ๆในการประชุมเมื่อวานนี้ โดย ECB มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ติดต่อกันนานถึง 9 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี เตือนว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังคงตกอยู่ในความเสี่ยง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มที่ซบเซาของตลาดแรงงานสหรัฐ รวมทั้งแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 92.12-94.84 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 77 เซนต์ สู่ 106.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 105.29-108.06 ดอลลาร์

  • กกร. เตรียมถก พาณิชย์ 9 เม.ย.หารือมาตรการลดผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า โวยแข็งขึ้นแท่นอันดับ 1 ใน 14 ประเทศคู่แข่งทางการค้าวอน"ธปท." ช่วยแก้ไม่ต้องเป็นพระเอกเหตุส่งออกกระอักทั้งค่าแรง ค่าบาททำขีดแข่งขันลด แถมตลาดส่งออกระส่ำออเดอร์เริ่มหด ส่งออกปีนี้มีโอกาสพลาดเป้าโต 8-9%
  • ราคาทองคำในประเทศลดลงกว่า 2,550 บาท เหตุแรงกดดันจากบาทแข็งค่า บวกกับกองทุน SPDR ลดการถือครองเกือบ 130 ตัน ด้านวายแอลจีแนะชะลอลงทุนและจับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมใดๆ เพื่อใช้ควบคุมภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เหมือนกับที่เกิดข่าวลือและความกังวลในตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ