การผละงานดังกล่าวนำโดยสหภาพพนักงานธนาคารไซปรัส หรือ ETYK ที่เป็นตัวแทนพนักงาน 11,000 คน ซึ่งระบุว่าสมาชิกจำนวนมากมีความเสี่ยงที่จะตกงาน เนื่องจากไซปรัสเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อธนาคารรายใหญ่ที่สุดของประเทศ 2 ราย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เชื่อกันว่าการผละงานดังกล่าวนับเป็นการผละงานครั้งแรกของภาคธนาคารในประวัติศาสตร์ของไซปรัส
ภายใต้ข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 1.0 หมื่นล้านยูโร (1.28 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ที่ตกลงไว้กับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) นั้น ไซปรัสต้องลดขนาดระบบการธนาคารโดยการควบรวมกิจการของแบงก์ ออฟ ไซปรัสและไซปรัส ปอปปูลาร์ แบงก์
แบงก์ ออฟ ไซปรัสเทคโอเวอร์บัญชีเงินฝากที่มีวงเงินต่ำกว่า 100,000 ยูโรและสินทรัพย์อื่นๆ รวมทั้งหนี้สิน 9.2 พันล้านยูโรที่เป็นผลจากความช่วยเหลือจัดสรรสภาพคล่องฉุกเฉิน (ELA) ของอีซีบีแก่ไซปรัสในช่วง 12 เดือนก่อน
นอกจากนี้ แบงก์ ออฟ ไซปรัสยังเทคโอเวอร์พนักงานของปอปปูลาร์ แบงก์ด้วยแต่ก็มีความกังวลว่าภายใต้การปรับโครงสร้างที่เกี่ยวข้องกับการปิดสาขาหลายแห่งนั้น พนักงานจำนวนหลายร้อยคนจะต้องอยู่ในกลุ่มผู้ที่ตกงานอยู่แล้วจากวิกฤตเศรษฐกิจ
มีการประเมินว่าอัตราว่างงานในปัจจุบันอยู่ที่ 12.5% และคาดว่าจะสูงขึ้นทั้งในช่วงปีนี้และปีหน้า ขณะที่ไซปรัสพยายามใช้แผนการปรับเปลี่ยนทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวพันกับมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวด
ทั้งนี้ พนักงานธนาคารจัดว่าเป็นกลุ่มแรงงานที่ได้สิทธิพิเศษมากที่สุดในไซปรัส โดยได้รับเงินเดือนสูงและผลประโยชน์อื่นๆมากมาย ซึ่งรวมถึงเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจำนวนมาก พนักงานธนาคารรายหนึ่งๆจะได้รับเงินหลายแสนยูโรเมื่อเกษียณอายุ แต่ในขณะนี้ เงินฝากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งหมดในแบงก์ ออฟ ไซปรัสได้ถูกปรับลดมูลค่าลง