โดยที่ผ่านมาได้มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน)หรือ สวก. ในฐานะที่ปรึกษาและเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในการจัดทำยุทธศาสตร์ จัดเวทีเพื่อระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ในการวางกรอบของยุทธศาสตร์ฯ
นายชวลิต กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมและพัฒนาการใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตรและอุปกรณ์การเกษตรใน 3 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ 1) ยุทธศาสตร์การผลิต เพื่อให้ผู้ประกอบการมีขีดความสามารถในการผลิตเครื่องจักรกลตรงตามความต้องการของลูกค้า 2) ยุทธศาสตร์การปรับแก้กฎระเบียบและนโยบายต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าเครื่องจักรกลการเกษตรในภูมิภาค และ 3) ยุทธศาสตร์การผลักดันธุรกิจ การวิจัย ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์เครื่องจักรกลตลอดสายการผลิต
ทั้งนี้จะได้นำยุทธศาสตร์ดังกล่าวเสนอต่อนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ พิจารณาและเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป
"ภายใต้ยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะให้ความสำคัญกับงานวิจัยเครื่องจักรกลการเกษตรสำหรับรายย่อยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันรายใหญ่มีงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ค่อนข้างเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ที่ยังมีปัญหาในบ้านเราคือเครื่องจักรกลสำหรับรายย่อยซึ่งมีเป้าหมายกระจัดกระจายไม่คุ้มทุนในการจำหน่าย ทำให้งานวิจัยและพัฒนามีน้อยและไม่ต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดของเครื่องจักรกลขนาดเล็กยังมีอนาคตอยู่มากในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น รถไถเดินตาม เป็นที่ต้องการอย่างมากในพม่า ลาว และกัมพูชา ดังนั้นคงต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการตลาดในประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น ซึ่งจะมีการกำหนดแผนงาน โครงการและรายละเอียดต่างๆ พร้อมที่จะเสนอครม.ในเดือนพฤษภาคมนี้" นายชวลิต กล่าว