รวมทั้งมีมติมอบหมายให้สำนักงานกสทช. เร่งดำเนินการยกร่างหลักเกณฑ์เสนอที่ประชุม กทค.พิจารณา 30 วัน เพื่อให้การดำเนินการให้เช่าเครื่องและอุปกรณ์วิทยุคมนาคมเพื่อให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในลักษณะดังกล่าวเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกสทช.
ขณะเดียวกันในระหว่างการยกร่างหลักเกณฑ์ยังไม่แล้วเสร็จ เห็นสมควรให้สำนักงาน กสทช.ติดตามเร่งรัดการดำเนินตามมติ กทค.ในการประชุมเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.55 เพื่อให้บริษัท กสท สามารถยริหารจัดการคลื่นความถี่ด้วยตนเองตามมาตรา 46 ของ กม.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ.2553
นายฐากร ตัณฐสิทธิ์ เลขา สำนักงานกสทช. กล่าวว่า มติกทค.เห็นว่า BFKT เป็นกิจการโทรคมนาคม แต่ไม่ใช่ประกอบปีกอบกิจการโทรคมนาคม "กรณีนี้หลีกเลี่ยงกฎหมายแต่ไม่ผิดกฎหมาย เราหาที่จับผิดไม่ได้ตามพ.ร.บ. ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 เราไม่มีอำนาจที่กำกับเขา" นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้การยกร่างหลักเกณฑ์จะยึดตามพ.ร.บ.วิทยุโทรคมนาคม พ.ศ. 2498 และพ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 มาตรา 32 เพื่อปิดช่องว่างกม.ประกอบกิจการโทรคมนาคม ปี 2544 และไม่ให้รายอื่นดำเนินการตามอย่าง BFKT