นายจักรรัฐ กล่าวอีกว่า หากดูจากการใช้ไฟฟ้าเพื่อเดินเครื่องการผลิตของแต่ละนิคมฯ จะอยู่ที่เฉลี่ย 100 เมกะวัตต์ ในช่วงเวลาปกติ ทำให้ 37 นิคมฯ จะใช้ไฟฟ้ารวมกันในช่วงเวลาปกติประมาณ 3,700 เมกะวัตต์ แต่ในช่วงใกล้สงกรานต์ซึ่งหลายโรงงานได้หยุดการผลิตเพื่อให้แรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้กำลังการผลิตจะต่ำกว่าช่วงเวลาปกติ ทำให้ไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าไม่เพียงพอ หรือต้องหยุดการผลิตตามที่มีข้อกังวลอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงที่รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาพส่วนประหยัดการใช้พลังงาน ทำให้กำลังของ กฟผ.มีเหลือพอในการจ่ายไฟฟ้าไปยังส่วนต่างๆ ดังนั้น จึงเชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะผ่านไปได้ด้วยดี และเท่าที่เกิดกระแสข่าวกรณีปัญหาไฟฟ้าครั้งนี้ กนอ.ยังไม่ได้ถูกสอบถามจากนักลงทุนต่างชาติเกี่ยวกับความมั่นคงด้านพลังงาน แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ก็ต้องการให้ไทยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะควรมีพลังงานทางเลือก เช่น โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ หรือโรงไฟฟ้าถ่านหิน เพราะจะทำให้เกิดความมั่นคงและความมั่นใจในด้านความมั่นคงได้
“แม้ไทยจะยังไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ แต่เชื่อว่าในอนาคตเมื่อเวียดนามซึ่งกำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ประสบความสำเร็จในการใช้ประโยชน์จากโรงไฟฟ้าดังกล่าว ก็อาจทำให้คนไทยเปลี่ยนแนวคิดมาสนับสนุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้" นายจักรรัฐ กล่าว