แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ของตลาดรถยนต์จะประสบกับภาวะของตลาดที่กำลังซื้อเกิดการชะลอตัวลงก็ตาม รถที่เป็นที่ต้องการสูงของลูกค้ามาสด้าปัจจุบันนี้เป็นรุ่นปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ที่เดือนนี้ส่งมอบให้ลูกค้าถึง 2,809 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 16% นอกจากนี้ในส่วนของรถยนต์นั่งมาสด้า2 ทั้งเอลิแกนซ์ ซีดาน และสปอร์ต แฮตช์แบค มียอดขายรวมกันถึง 3,074 คัน ยังคงรักษาระดับเพดานการขายที่สามพันคันต่อเดือนไว้ได้อย่างเหนียวแน่น และสปอร์ตคอมแพ็ค อย่างมาสด้า3 ทั้งสองรุ่น 2.0ลิตร และ 1.6 ลิตร มียอดขายทั้งสิ้น 487 คัน และอีก 2 คัน มาจากรถในกลุ่มพรีเมียมคาร์
ขณะที่ยอดขายมาสด้าไตรมาสแรกของปี 2556 ก็ได้รับอานิสงค์นี้เช่นเดียวกัน แม้ว่าตลาดในช่วงแรกของปีนี้ไม่ค่อยสดใสนัก แต่มาสด้ายังคงรักษาการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 27% ด้วยยอดการจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 18,125 คัน โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2 ใหม่ รุ่นสปอร์ต แฮตช์แบค 5 ประตู และรุ่นเอลิแกนซ์ ซีดาน 4 ประตู มียอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 9,260 คัน ตามมาด้วยสปอร์ตปิกอัพสไตล์เก๋ง สามารถทะลุมาได้ถึง 7,575 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 109% ส่วนรถยนต์นั่งสปอร์ตมาสด้า 3 ที่ปีนี้ถือว่าร้อนแรงเป็นอย่างมาก ยังคงรักษาระดับความร้อนแรงมาตลอดมียอดขายรวมทั้งสิ้น 1,285 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และในส่วนของรถพีเมียมคาร์ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน ประกอบด้วยสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดประทุนมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 และรถสปอร์ตครอสโอเวอร์หรู 7 ที่นั่ง มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 รวมกันอีก 5 คัน
"สถานการณ์ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยโดยรวมในช่วงไตรมาสแรกนี้ ถือว่าความต้องการจับจองรถใหม่หดตัวลงพอสมควรโดย เฉพาะในส่วนของรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่อยู่ในกลุ่มโครงการรถยนต์คันแรกและตอนนี้ได้สิ้นสุดโครงการไปแล้วนั้น แม้ว่าบริษัทรถจะมียอดจองซื้ออยู่ในมือจำนวนมาก แต่ยังไม่สามารถที่จะส่งมอบรถยนต์ใหม่ให้กับลูกค้าได้ เนื่องจากมีลูกค้าหลายรายขอเลื่อนการรับรถออกไป รถที่ผลิตมาเพื่อรอส่งมอบจึงต้องถูกนำไปส่งมอบให้ลูกค้าที่จองใหม่ในปีนี้แทน ซึ่งก็ต้องใช้แนวทางการบริหารจัดการอย่างรัดกุมมากขึ้น" นายยูกิ กล่าว