ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนค่า หลังสหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 10, 2013 07:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจและดัชนีความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจขนาดเล็กปรับตัวลดลง แต่ดอลลาร์ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.3100 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3004 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5332 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5254 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1. 0503 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0410 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.30 เยน จากระดับ 99.21 เยน แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9315ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9354 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนแอ รวมถึงสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนก.พ.ซึ่งปรับตัวลดลง 0.3% จากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 0.8% โดยสต็อกสินค้าเดือนก.พ.ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2554 หรือในรอบ 17 เดือน และสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลายบริษัทปรับลดสต็อกสินค้าคงคลัง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ปิโตรเลียม และเภสัชภัณฑ์

นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนในเดือนมี.ค. โดยเจ้าของธุรกิจที่วางแผนจะลดสต็อกสินค้าและลดการจ้างงานนั้นมีจำนวนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไป ในการประชุมครั้งล่าสุด โดยบีโอเจจะยังคงเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบเชิงรุก จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เพื่อจัดการกับปัญหาเงินฝืด

ส่วนสกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีในเดือนก.พ.ลดลง 1.5% เมื่อเทียบรายเดือน และหดตัว 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ข้อมูลระบุว่าการส่งออกของเยอรมนีไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลกปรับตัวลดลง ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนีจะต้องใช้ระเวลานานกว่าที่เคยประเมินไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ