บทบาทดังกล่าวทำให้ บตท.มีความชัดเจนมากขึ้นในฐานะตัวกลางจัดหาแหล่งเงินทุน เพื่อสนับสนุนสถาบันการเงินตลาดแรก โดยใช้หลักการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) และร่วมมือกับสถาบันการเงินตลาดแรก สร้างผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะยาว เพื่อช่วยประชาชนให้สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ บตท. ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยครั้งนี้ จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ที่เป็นอัตราคงที่ใน 2 หรือ 3 ปีแรก และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในปีต่อมา เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจหลักในการสนับสนุนให้มีอัตราดอกเบี้ยบ้านคงที่ของ บตท. เพื่อช่วยประชาชนให้ได้รับโอกาสการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมากขึ้น
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารและ บตท.จะร่วมมือกันในการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยในวงเงิน 8,000 ล้านบาท สิ้นสุดในวันที่ 30 ธ.ค.56 ต่อเนื่องจากโครงการในช่วงปลายปี 55 ที่ได้ตั้งวงเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัยไว้ที่ 2,500 ล้านบาท และธนาคารสามารถโอนสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ บตท.ได้ถึง 2,400 ล้านบาท ถือเป็นความร่วมมือนโยบายของรัฐบาลส่งเสริมระบบเศรษฐกิจและระบบสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ทั้งสถาบันการเงิน ประชาชนผู้กู้ ตลอดจนผู้ลงทุน และสถาบันการลงทุนที่ได้ลงทุนในพันธบัตรของ บตท.
“จากทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีโอกาสขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการที่อยู่อาศัยในทุกภูมิภาคโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ และจากการที่ธนาคารกสิกรไทยได้มีโอกาสสัมผัส และใกล้ชิดกับลูกค้าทำให้เราทราบดีว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังต้องการได้รับโอกาสในการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย ดังนั้นความร่วมมือกันของธนาคารกสิกรไทย และบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยในโครงการความร่วมมือในการจัดซื้อสินเชื่อที่อยู่อาศัยจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถมีที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยสามารถเข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น และได้รับอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าปกติทั่วไป"
นอกจากการได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และคงที่จากโครงการความร่วมมือนี้แล้ว ธนาคารยังได้จัดแคมเปญการตลาด เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า โดยมอบบัตรกำนัลเซ็นทรัลมูลค่าสูงสุด 1,200 บาท สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวที่ยื่นกู้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.56 จนถึงวันที่ 30 มิ.ย.56 และจดจำนองภายใน 15 ก.ค.56 นี้ ครอบคลุมทั้งสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์