"เมื่อเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างแน่นอน และยอมรับว่ากระบวนการดูแลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนของหน่วยงาน นอกเหนือการกำกับของกระทรวงการคลังโดยตรง เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ล้วนแต่มีผู้ทรงคุณวุฒิในการพิจารณามาตรการ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยขอให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ"นายกิตติรัตน์ กล่าว
ทั้งนี้ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมากมีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น สินค้าจำเป็นที่นำเข้าจากต่างประเทศจะมีราคาถูกลง ถือเป็นประโยชน์ในภาคธุรกิจที่มีการนำเข้าและผู้บริโภค ในทางตรงกันข้ามกลับส่งผลกระทบภาคส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าและการบริการ นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเที่ยวมองไทยจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทำให้การประกอบธุรกิจดังกล่าวยากขึ้น ซึ่งผลที่ตามมาอาจกระทบการจ้างงาน ความแข็งแรงในฐานะลูกหนี้และลูกค้าในระบบธนาคาร และไม่สามารถขยายตลาดและสินค้าได้ อย่างสินค้าเกษตรในส่วนที่ส่งออก อาจทำให้ราคาสินค้าเกษตรได้รับผลกระทบ
รมว.คลัง กล่าวว่า จะหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่กำกับดูแลนโยบายทางการเงินการคลังให้มากขึ้น ที่สำคัญมีความกังวลในการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนในตลาดทุนไทย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ขอพูดถึงแนวโน้มค่าเงินบาทในอนาคตว่าจะแข็งค่าขึ้นอีกหรือไม่ อยากให้หน่วยงานที่ดูแลโดยตรงมีอิสระในการดำเนินนโยบาย แต่หากบาทแข็งค่าขึ้นเนื่องจากดุลการค้าเป็นบวกทุกฝ่ายจะเข้าใจ ในทางกลับกันหากแข็งค่าขึ้นในขณะที่ดุลการค้าเป็นลบ สาเหตุจากเงินตราต่างประเทศไหลเข้าจำนวนมาก หวังประโยชน์จากการลงทุนในตราสารหนี้และพันธบัตรรัฐบาล จะเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก
ขณะที่สถานการณ์การส่งออกติดลบมาตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ถือว่าผู้ส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว