ทั้งนี้ สถาบันเนด้าจะทำหน้าที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้กับภาคเอกชนที่จะเข้าไปลงทุนในโครงการทวาย ภายใต้การระดมทุนแบบนิติบุคคลย่อย หรือ SPV ที่ภาคเอกชนจะเข้าลงทุนเอง ล่าสุดรายละเอียดเกี่ยวกับกรอบสัญญาหรือเงื่อนไขผลตอบแทนการลงทุนต่างๆ จะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.นี้ คาดว่าจะมีการลงนามร่วมกันระหว่างรัฐบาลเมียนมาร์และรัฐบาลไทยจากตัวแทนสถาบันเนด้า
รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่าปลายเดือน พ.ค.นี้ โครงการทวายจะได้ข้อสรุปทั้งหมด โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะเดินทางไปประชุมคณะกรรมการร่วมระดับสูง(JHC) ที่เมืองเนปิดอว์ ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งจะมีการลงนามร่วมกันด้วย
สำหรับข้อกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการลงทุนของเมียนมาร์ที่จะผ่านสภาประมาณกลางปีนี้ จากการศึกษาเปรียบเทียบเบื้องต้นเห็นว่าเหมาะสมและสร้างแรงจูงใจแก่นักลงทุนพอสมควร ลักษณะโดยรวมคล้ายกฎหมายสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI)ของไทย เช่น สิทธิพิเศษทางภาษีใน 8 ปีแรกการลงทุน เป็นต้น
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า การแก้ไขสัญญาเดิมที่ทำไว้กับ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) ตามที่มติคณะรัฐมนตรีได้แก้ไขสัญญา ยืนยันว่าในส่วนเม็ดเงินลงทุนที่ ITD ได้ลงทุนไปก่อนแล้ว เช่น การปรับพื้นที่หรือสาธารณูปโภค จะคืนให้ในรูปกองทุน กล่าวคือ เมื่อมีกลุ่มบริษัทต่างๆ มาลงทุน SPV จะแบ่งปันผลตอบแทนบางส่วนให้กับ ITD ตอบแทน หรือ ITD ประสงค์ให้อยู่ในรูปหุ้นโครงการทวายย่อมทำได้