ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.43 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.28 เยน และร่วงลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9214 ฟรังค์ จากระดับ 0.9321 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3191 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3040 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5276 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0381 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0323 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากนายชาร์ลส อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังต้องการมาตรการกระตุ้นทางการเงินแบบ QE จึงจะสามารถผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปได้ ขณะที่นายวิลเลียมส์ ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กกกล่าววา การชะลอตัวลงของตัวเลขจ้างงานในเดือนมี.ค.สะท้อนให้เห็นว่า สหรัฐยังจำเป็นต้องใช้มาตรการ QE หรือมาตรการซื้อสินทรัพย์
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 7% สู่ระดับ 1,036,000 ยูนิต ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 930,000 ยูนิต
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค. ลดลง 0.2% สะท้อนให้เห็นว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มปรับตัวลดลง