โดยการกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ จะมีการวิเคราะห์ความเหมาะสมของที่ดิน คุณสมบัติของดินร่วมกับความต้องการธาตุอาหารของพืชแต่ละชนิด ตามสภาพที่มีการเพาะปลูกพืชร่วมกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น แหล่งน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วไป เพื่อประกอบการกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจในแต่ละชนิด ซึ่งประโยชน์ที่จะได้จากการบริหารจัดการการใช้ที่ดินของประเทศจะทำให้เกษตรกรลดต้นทุนจากการทำการเกษตร เนื่องจากปัจจัยการผลิตได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพสูง เกษตรกรมีโอกาสในการเลือกพืชที่ปลูกตามความเหมาะสมของดินและสภาพพื้นที่
ดังนั้น เมื่อสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับการพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer จึงเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี มีการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้เต็มศักยภาพ ลดการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตร ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรของประเทศอีกด้วย
“โครงการฝึกอบรมการพัฒนาหมอดินอาสาและเกษตรกรเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะทำให้หมอดินอาสาและเกษตรกรทราบถึงแนวทางและนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมพัฒนาที่ดินในการดำเนินงานปีงบประมาณ 2556 แล้ว ยังได้ทราบแนวทางการปฏิบัติสู่การเป็น Smart Farmer ตลอดจนเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของหมอดินอาสา ให้สามารถดำเนินงานและเผยแพร่งานของกรมพัฒนาที่ดินสู่เกษตรกรรายอื่นในพื้นที่ต่อไปได้อย่างทั่วถึง" นายยุทธพงศ์ กล่าว