ส.อ.ท.ร้องรัฐบาลออกมาตรการแก้บาทแข็ง เก็บภาษีเงินไหลเข้า-ลดดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 22, 2013 17:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ รักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวเรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลังดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท เพราะขณะนี้เงินบาทแข็งค่าอยู่ในระดับ 28.67 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากต้นปีที่อยู่ในระดับประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทที่แข็งค่านี้ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และจีน ที่เงินอ่อนค่าลง

ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) จะทำหนังสือถึง รมว.คลังและ ผู้ว่าการ ธปท. เพื่อขอให้ออกมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยพิจารณาจัดเก็บภาษีเงินทุนไหลเข้าที่มาเก็งกำไรระยะสั้น แต่จะต้องไม่กระทบต่อตลาดเงิน และการระดมทุนของภาคเอกชน และขอให้ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 2.75 ในปัจจุบัน ให้เหลือร้อยละ 2 เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินทุนไหลเข้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อภาคการส่งออก รวมทั้งขอให้มีกลไกให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน

"นับตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่าประมาณร้อยละ 7 ถึง 8 ส่งผลกระทบผุ้ประกอบการ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศสูง และอุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือที่มีอยู่แล้วของรัฐบาล ไม่สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบให้ภาคเอกชนได้เพียงพอ"นายธนิต กล่าว

ส่วนการแก้ไขปัญหาความขัดแยังภายในของ ส.อ.ท.ที่ยืดเยื้อนานกว่า 5 เดือน นายธนิต กล่าวว่า ขณะนี้ได้เจรจาร่วมกับกลุ่ม นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท.เพื่อแก้ไขปัญหา โดยมีผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของทั้งสองฝ่ายเข้ามาเป็นคนกลาง โดยคาดว่าจะได้ข้อยุติเร็วๆ นี้ แต่ยังมีอีกหลายเงื่อนไขที่ต้องพูดคุย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการกำหนดตัวประธาน ส.อ.ท.

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนี้ตนเองจะยังดำรงตำแหน่งรักษาการประธาน ส.อ.ท.ต่อไป จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะจบลง โดยยืนยันว่าจะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน หากมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ