สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% สู่ระดับ 4.92 ล้านยูนิต ซึงสวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้น และต่ำกว่าตัวเลขของเดือนก.พ.ที่ 4.95 ล้านยูนิต ซึ่งมีการปรับลดลงจากเดิมที่รายงานไว้ที่ 4.98 ล้านยูนิต
ยอดขายบ้านมือสองที่อ่อนแรงลงในเดือนมี.ค.แสดงให้เห็นว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังไม่มีการฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เชื่อกันว่าภาคที่อยู่อาศัยจะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันเศรษฐกิจของสหรัฐในปีนี้
หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 10.3%
ส่วนราคากลางของบ้านมือสองในเดือนมี.ค.อยู่ที่ 184,300 ดอลลาร์ ซึ่งดีดตัวขึ้น 11.8% จากปีก่อน โดยนับเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับแต่เดือนพ.ย.2548
สำหรับสต็อกบ้านในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.6% จากเดือนก.พ. มาอยู่ที่ 1.93 ล้านยูนิต และหากยอดขายอยู่ที่ระดับปัจจุบัน จะต้องใช้เวลา 4.7 เดือนในการขายสต็อกบ้านดังกล่าว ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นจาก 4.6 เดือนสำหรับการเคลียร์สต็อกบ้านในเดือนก.พ.