ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.41 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 99.55 เยน และพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9346 ฟรังค์ จากระดับ 0.9332 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3062 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินปอนด์พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.5280 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5231 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 1.0269 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0280 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินเยนร่วงลงหลังจากที่ประชุม G20 เห็นพ้องต้องกันว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุกที่ญี่ปุ่นนำมาใช้เมื่อเร็วๆนี้ มีเป้าหมายที่จะยุติภาวะเงินฝืดและหนุนอุปสงค์ภายในประเทศ โดยที่ประชุมไม่ได้ตำหนิญี่ปุ่นในเรื่องสกุลเงินเยนที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังเกาหลีใต้ได้ออกมาปฏิเสธรายงานของสื่อที่ระบุว่า กลุ่มประเทศ G20 ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับเงินเยนที่อ่อนค่า และนโยบาย "อาเบะโนมิกส์" โดยกระทรวงระบุว่าที่ประชุมได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับ ผลกระทบด้านลบที่ไม่ได้ตั้งใจ อันเกิดขึ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของญี่ปุ่น
รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G20 ได้ประชุมร่วมกันเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยการประชุมจบลงด้วยถ้อยแถลงที่ว่า "การบังคับใช้นโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมาของญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะยุติภาวะเงินฝืดและสนับสนุนความต้องการภายในประเทศ" ซึ่งสื่อบางแห่งรายงานว่าที่ประชุม G20 ได้ให้การสนับสนุนการอ่อนค่าของเงินเยน
ด้านเงินปอนด์ฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากที่บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ปรับลดอันดับเครดิตสากลระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศและสกุลเงินปอนด์ สู่ระดับ "AA+" จาก "AAA" โดยให้แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ ซึ่งการปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและการคลังของอังกฤษที่อ่อนแอลง