รายได้จากภาษีลดลง 5.7% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการจับเก็บภาษีเงินได้ที่ร่วงลง 12% ขณะที่รายจ่ายลดลง 4.7% และการลงทุนสุทธิลดลงแตะ 4.6 พันล้านปอนด์ จาก 7 พันล้านปอนด์
สำหรับในปีงบประมาณซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค. ยอดขาดดุลงบประมาณของอังกฤษลดลง 3.47 หมื่นล้านปอนด์จากปีก่อนหน้า สู่ระดับ 8.62 หมื่นล้านปอนด์
ทั้งนี้ รัฐบาลอังกฤษยึดมั่นในแผนรัดเข็มขัดนับตั้งแต่ที่รัฐบาลผสมซึ่งนำโดยนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ขึ้นบริหารประเทศในปี 2553 แต่รัฐบาลยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายลดหนี้และยอดขาดดุลได้ อันเนื่องมาจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซา
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำอย่าง มูดีส์ และ ฟิทช์ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA ของอังกฤษลง 1 ขั้นในเดือนก.พ.และเม.ย.ตามลำดับ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้แนะนำให้รัฐบาลอังกฤษชะลอการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ
สำนักงานสถิติของอังกฤษมีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 1/2556 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปีได้อย่างเฉียดฉิว สำนักข่าวซินหัวรายงาน