ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.2991 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3059 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5280 ดอลลาร์สหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลงสู่ระดับ 1.0255 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0269 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.41 เยน และขยับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 0.9445 ฟรังค์ จากระดับ 0.9346 ฟรังค์
สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากมาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจที่ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนในเดือนเม.ย.อยู่ที่ 46.5 โดยดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจของภูมิภาคยังเผชิญภาวะหดตัว
นอกจากนี้ ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของเยอรมนีในเดือนเม.ย.ลดลงสู่ระดับ 48.8 จาก 50.6 ในเดือนมี.ค.
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในประเทศดีดตัวขึ้น 1.5% สู่ระดับ 417,000 ยูนิตในเดือนมี.ค. หลังจากที่ลดลงแตะ 411,000 ยูนิตในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.ของปีที่แล้ว ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 18.5% ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านในสหรัฐยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้นในเดือนก.พ. โดยดัชนีราคาบ้านรายเดือนของ FHFA แสดงให้เห็นว่า ราคาบ้านในเดือนก.พ. สูงขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะลดลง 2.8% ในเดือนมี.ค. หลังเพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนก.พ.