"นักธุรกิจส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจและธุรกิจโดยรวม จะยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี เนื่องจากดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจในระยะต่อไป" น.ส.สมพิศ กล่าว
นางสาวสมพิศ กล่าวว่า ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ของไทย ยังต้องนำเข้าวัตถุดิบเพื่อผลิตสินค้าส่งออก ดังนั้น เงินบาทที่แข็งค่าก็จะมีส่วนช่วยลดต้นทุนการนำเข้า หรือเป็นการ Natural Hedge ได้บางส่วน แต่ผู้ส่งออก กลุ่ม SME ที่มีการประกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย รวมทั้งธุรกิจส่งออกที่ใช้วัตถุดิบส่วนใหญ่ในประเทศ ซึ่งไม่ได้รับประโยชน์จากการแข็งค่าของเงินบาท (Local Content) อาจได้รับผลกระทบ เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร อาหาร ผู้ส่งออกข้าว อ้อย ยางพารา และสินค้าตกแต่งบ้าน เป็นต้น
อนึ่ง ธนาคารกรุงไทย ได้จัดทำดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (Krung Thai Business Index: KTBI) ประจำไตรมาสที่ 1/56 โดยสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจจากทั่วประเทศจำนวนกว่า 2,200 ราย