สาเหตุที่เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงไปใกล้แตะระดับ 29 บาท/ดอลลาร์ คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักลงทุนเริ่มทยอยซื้อคืนดอลลาร์ สาเหตุจากความกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะออกมาตรการในการเข้ามาช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาท
"ที่บาทอ่อนตอนนี้เพราะมีการซื้อดอลลาร์คืน จากความไม่แน่ใจว่าแบงก์ชาติจะมีมาตรการอะไรออกมา ก็เลยซื้อดอลลาร์กลับ และรอดูสถานการณ์ก่อนว่ามาตรการนี้จะมีผลรุนแรงมากน้อยแค่ไหน และมีผลต่ออะไรบ้าง" นักบริหารเงินระบุ
ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่นักลงทุนรอดูอยู่ คือ จากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปที่ยังไม่สู้ดีนัก นักลงทุนจึงคาดว่าในการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) รอบหน้า อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้อีก
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 28.85-29.00 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 28.9290 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.68845%
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.43/46 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3056/3060 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 28.8600 บาท/ดอลลาร์
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(24 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงเกินคาดของสหรัฐ ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น แม้มีกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป(ECB) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(24 เม.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงเกินคาดในเดือนมี.ค. ขณะที่บริษัทเอกชนหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่มีทั้งในด้านบวกและด้านลบ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลงในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินปรับตัวสูงขึ้นด้วย ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์พลังงานภายในประเทศ
โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 2.25 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 91.43 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 101.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้นในเช้านี้ โดยได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจเกาหลีใต้ที่ขยายตัวมากที่สุดในรอบ 2 ปี ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการรายงานผลประกอบการของหลายบริษัท
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(24 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
- เจ้าสัวซีพี "ธนินท์ เจียรวนนท์" ออกโรงเตือนอย่าใช้วิธีการทุ่มซื้อดอลลาร์เพื่อทำให้เงินบาทอ่อน ชี้เป็นการสูญเปล่า ขณะเดียวกันแนะให้นำเงินที่คิดว่าจะใช้ทุ่มซื้อดอลลาร์เอาไปช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าจะเหมาะสมกว่า เช่น การช่วยเหลือในเรื่องการพัฒนาคุณภาพการผลิตสินค้า และการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ยังยืนยันว่าข้อเสนอที่ต้องการให้ ธปท.ลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพื่อสกัดเงินทุนไหลเข้า คงไม่เป็นผลมากนัก เพราะถ้าดูเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาในไทยส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว ส่วนจะมีการดำเนินมาตรการใดๆ ออกมาเพิ่มเติมหรือไม่นั้นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการดำเนินมาตรการมักจะมีผลข้างเคียงเสมอ
- นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ยอมรับปวดหัวและหนักใจกับปัญหาบาทแข็ง หลังพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเพื่อให้ดำเนินการในสิ่งที่ควรจะทำนั่นคือการลดดอกเบี้ย แต่ก็ยังไม่ดำเนินการใดๆ
- นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ฟันธงบาทแข็งไม่กระทบตลาดทุน เหตุนักลงทุนเองเข้าใจถึงความเสี่ยงของการลงทุนและผลตอบแทนที่จะได้รับในภาวะเช่นนี้แล้ว และเชื่อเป็นโอกาสดี บจ.ช่วยลดต้นทุนสั่งซื้อสินค้าวัตถุดิบ
- นายซานเจย์ มาธัวร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ธนาคารเดอะรอยัลแบงก์ ออฟ สกอตแลนด์(อาร์บีเอส) เปิดเผยว่า เงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้จะแข็งค่าขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย หรือราว 2.5% จากฐานปัจจุบันที่ 28.65 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยอาจลงไปทรงตัวอยู่ที่ระดับ 28.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
- นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังหารือกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงินบาทว่า ส.อ.ท.เตรียมนำ 5 มาตรการแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่าไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในสัปดาห์หน้า