ส่วนธุรกิจของกรีซโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลางได้รับแรงกดดันมหาศาลจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นวิกฤติหนี้สินของประเทศในช่วงปลายปี 2552
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจต่างๆในประเทศได้ปิดตัวลงมากกว่า 100,000 แห่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานของกรีซพุ่งขึ้นกว่า 27% ของตลาดแรงงาน
นอกจากนี้ ความไม่มั่นใจที่ยืดเยื้อต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจกรีซ และความวิตกกังวลที่ว่ายูโรโซนจะเพิกเฉยต่อการให้ความช่วยเหลือ ส่งผลให้บรรดาบริษัทรายใหญ่ๆลังเลที่จะลงทุนในประเทศ
ผลสำรวจชี้ว่า ในช่วงปี 2554-2555 นั้น มีธุรกิจขนาดใหญ่เพียง 438 แห่ง จาก 8,390 แห่ง ลงทุนในประเทศซึ่งคิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 5 พันล้านยูโร
เนื่องจากกรีซพยายามดิ้นรนให้รอดพ้นจากภาวะล้มละลายทางการเงิน โดยได้รับความช่วยเหลือจากธนาคารหลายแห่งในต่างประเทศ ประกอบกับเสถียรภาพ และแผนการปฏิรูปที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอยทำให้สภาพเศรษฐกิจในกรีซกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรี อันโตนิส ซามาราส ของกรีซแสดงความเห็นด้านบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปีหน้าระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ว่า “ขณะนี้มีสัญญาณบวกหลายๆอย่าง บรรยากาศในประเทศเปลี่ยนไป และในไม่ช้าสังคมก็จะรู้สึกถึงความแตกต่าง" สำนักข่าวซินหัวรายงาน