ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งเป็นมาตรวัดสภาวะตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่านั้น ลดลง 4,500 ราย แตะระดับ 357,500 ราย
การปรับตัวลดลงเกินคาดของจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้ โดย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 158,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานก่อนหน้านี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพียง 88,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ 7.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี จากระดับ 7.7.% ในเดือนก่อนหน้านี้
การพลิกฟื้นภาวะซบเซาในตลาดแรงงานถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยในการประชุมครั้งล่าสุด เฟดประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% พร้อมกับย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5%
คณะกรรมการเฟดระบุว่า เฟดต้องการที่จะสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวในระดับสูงสุดและสร้างเสถียรภาพด้านราคา ซึ่งสอดคล้องกับขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเฟด นอกจากนี้ เฟดคาดว่า ด้วยการผ่อนคลายนโยบายอย่างเหมาะสม เศรษฐกิจจะมีการขยายตัวในอัตราปานกลางและอัตราว่างงานจะลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย.ในวันศุกร์หน้า ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.จะเพิ่มขึ้น 88,000 ราย หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 268,000 รายในเดือนก.พ.